FIC Mission Impossible:Rouge Nation
Title:Happy BirthDay Benji
Pairing:Benji DunnxWilliam Brandt
rate:PG-15
note: ฟิควันเกิดเบนจี้ค่า ที่จริงเบนจี้เกิดวันที่ประมาณ29.08นะคะ แต่เราช้าไปหน่อย ๕๕๕๕ YY มามึนๆเมาๆหื่นๆสนองนี๊ดสุดโต่งตามเคยค่ะ ฝากด้วยนะคะะะ
.
.
Happy BirthDay Benji
.
นิ้วเรียวเคาะคีบอร์ดติดต่อกันอย่างชำนาญวิชาพิมพ์ดีด ดวงตาลุกลนลุกลิกไปมาอย่างรวดเร็วเป็นเวลานาน ในปากคาบอาหารเสริมสำเร็จรูปแล้วดูดรวดเดียวหมดก่อนจะคายเศษทิ้งไป ตัดภาพไปที่อีกคนข้างๆมองเขาด้วยสายตาเหนื่อยใจแล้วเดินไปเก็บขยะในห้องใส่ถุงดำไว้
แสงแดดทอมาจากหน้าต่างบอกว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว นิ้วแกร่งเอื้อมไปเคาะปุ่มเอ็นเตอร์ หน้าต่างโปรแกรมขึ้นตัวหมุนๆบ่งบอกว่ากำลังดาวน์โหลดการทำงาน ท้ายสุดก็ขึ้นคำเล็กๆว่า ส่งงานสำเร็จ
“แบรนด์ท!ตอนนี้กี่โมงแล้ว!!!?”ชายหนวดครึ้มหันไปถามเขา ดวงตาแสดงถึงความอ่อนล้าและดีใจปนกัน ชายอีกคนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“..ยินดีด้วย เบนจี้ ตอนนี้6.02น. ก่อนเดดไลน์4ชม.”แบรนด์ทถอนหายใจอย่างอ่อนล้า เขาเดินไปหยิบเอาเสื้อกั๊กสีดำมาใส่แล้วชายตามองเบนจี้ที่กำลังมองเขาอย่างตื่นเต้นชนิดที่ว่าเก็บอาการไม่อยู่
“ฉันจะไปฉลองวันเกิดกับนาย ตามสัญญา”
“เยส!!!”
.
.
.
.
.
30สิงหาคม วันเกิดเบนจี้ ปีนี้สิริอายุโดยรวม42ปี
เขาปั่นงานล่วงหน้าของงานทั้งเดือนอย่างบ้าคลั่งเพื่อหาเวลามาฉลองวันเกิด ทำไมเขาถึงมาทำงานบริษัทเลือดเย็นนี้ได้หนา เบนจี้คิดแล้วกัดฟันกรอด แต่ก็ช่างมัน เพราะตอนนี้เขาผ่านมาแล้ว และเขากำลังจะมีความสุขกับแบรนด์ท!!!
ค คนที่….แอบชอบ… อ่ะ…
เบนจี้กระชับชุดของเขาแน่น แม้ว่าจะอยู่ในชุดหมวกแก๊บ เสื้อยืด กระเป๋าเป้ กางเกงยีนส์เก่าๆและรองเท้าผ้าใบแต่เขาก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ ไอ้นี่มันนับเป็นเดทมั้ยนะ เดทใช่มะ!!
เขาเปิดประตูห้องพักออกไป พบแบรนด์ทในชุดเสื้ิอกั๊กใส่ทับเสื้อเชิ้ตสีขาวพับที่ข้อ กางเกงสีดำในรูปแบบที่คุ้นเคย เบนจี้หน้าแดงจนแทบระเบิด แบรนด์ทมองเขาหัวจรดเท้าแล้วหัวเราะ
“แต่งตัวได้สมเป็นนายดีนี่เบนจี้ เอาล่ะ ทำตามตารางนายไปเลย”เขายักไหล่ เบนจี้ยิ้มแล้วเดินนำไปก้าวสองก้าว
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์”
“แหะๆๆ ขอบใจน้า ที่ยอมมาด้วย”
“นายทำงานโหมรุ่งโหมค่ำสามวันติดนะเบนจี้ ฉันไม่ใช่คนใจยักษ์อะไรขนาดนั้น..”แบรนด์ทนึกถึงสภาพเบนจี้เมื่อสองสามวันก่อนแล้วเบ้ปาก เบนจี้ยิ้มแห้ย
“ก ก็อยากมาเที่ยวกับนายนี่หว่า”เบนจี้เนียนเดินเข้าไปควงแขนแบรนด์ท คนอายุน้อยกว่ามองเขาเล็กๆหูเขาขึ้นสีเล็กน้อย
“หลังงานเสร็จนี่นายได้นอนสักงีบรึยังเบนจี้”แบรนด์ทเปลี่ยนเรื่อง น้ำเสียงเจือความเป็นห่วงน้อยๆ
“อ๊ะ ลืมไปเลย ฉันมัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาจองบัตรดิสนีย์แลนด์”เบนจี้ทำกำปั้นทุบอุ้งมือดังปุ่บ แบรนด์ทมองเขาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“หา!นายยังไม่นอน!! ไม่สิ ที่หนักกว่าคือนายจะพาฉันไปดิสนีย์แลนด์!!!?”แบรนด์ทหะนล่อกแล่กมองภาพรอบตัว เด็กน้อยส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวและรถบัสทัศนศึกษา แบรนด์ทตบหน้าผากตัวเองดังฉาด
“ใช่แล้ว! มินนี่เม้าส์รอเราอยู่ ไปกันเหอะแบรนด์ท!!”เบนจี้จ้องมองปราสาทด้วยสายตาตื่นเต้น แล้วควงแขนแบรนด์ทวิ่งเข้าไปราสเด็กน้อย
ก่อนที่จะได้ว่าอะไร เสียงพลุของสวนสนุกก็ดังขึ้นในโสตประสาทของเขาก่อนเสียแล้ว
.
.
.
ตอนนี้มีหูกระต่ายอยู่บนหัวแบรนด์ท
และในมือเขามีซอฟครีมโคนที่สาม ที่ต้องกินช่วยเบนจี้
“ฉันรู้ว่านายชอบมาก แต่กินเยอะขนาดนี้ซอฟครีมจะฆ่านาย”แบรนด์ทเลียมันน้อยๆ หวานบาดลิ้น แต่ก็อร่อยดี
“ฉันจำไม่ได้แล้วว่ากินมันครั้งสุดท้ายตอนไหน อร่อยเป็นบ้า!”แบรนด์ทแอบเห็นเขาน้ำตาไหล บนหัวเบนจี้มีหูมิกกี้เม้าส์ และในมือเขานอกจากซอฟครีมแล้วก็ยังมีลูกโป่งอีกสองสามลูก
“ทำไมเราถึงกินอะไรพวกนี้ก่อนไปเล่นของเล่นประเภทอย่างว่าล่ะเบนจี้”แบรนด์ทถอนหายใจ
“เราเล่นม้าหมุนสักสองรอบให้ย่อยก่อนก็ได้นะ แล้วก็ไปปั่นเป็ดน้ำกัน ส่วนถ้วยชาหมุนนี่ถ้าเล่นตอนนี้ฉันว่าฉันคงอ้วกเป็นรุ้ง”เบนจี้ทำหน้าอี๋แหวะ
“อือฮึ ของเล่นคู่รัก”แบรนด์ทหัวเราะ เขาปาดซอฟต์ครีมที่เปื้อนเคราของเบนจี้ออกเบาๆด้วยผ้าเช็ดหน้า เบนจี้หน้าแดงให้กับคำว่า คู่รัก ของแบรนด์ทก่อนจะกลับไปแทะโคนผงคุกกี้เงียบๆ
“ฉันอยากเล่นพวกโรลเลอร์โคสเตอร์ ไหวมั้ย?”แบรนด์ทมองเขา เบนจีมองอึ้งๆ เขา้ลอบกลืนน้ำลายแต่ก็ยังใจดีสู้เสือ
“ไหวซี่!! เห็นอย่างงี้เบนจี้ก็แข็งแกร่งนะขอบอก!!!” แล้วเขาก็เดินไปต่อแถวโรลเลอร์โคสเตอร์
.
.
เบนจี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพวกของเล่นผาดโผนน่าตาน่ารักของดิสนีย์แลนด์จะสร้างดาเมจรุนแรงกับเขาขนาดนี้ เขาแทบอ้วกแตกหลังลงจากโรลเลอร์โคสเตอร์ แล้วแบรนด์ทก็ลากเขาไปต่อที่บันจี้จั๊มป์เอย รถไฟเหาะอีกที่เอย ของเล่นผาดโผนอะไรสักอย่างอีก5-6ชิ้น ปิดท้ายด้วยการหมุนถ้วยน้ำชาด้วยกันอย่างบ้าคลั่ง
“โอเคนะ?”น้ำเย็นๆถูกวางบนถ้าขนหนูที่ปิดตาเขาอยู่ “โทษทีเบนจี้ ฉันเล่นตามใจไปหน่อย”
“เอาน้าแบรนด์ท ฉันเองก็สนุกนะ อ่าาา ฉันอายุ42ปีวันนี้นะ”น้ำเสียงเบนจี้อิดโรยมาก แบรนด์ททิ้งตัวนั่งข้างๆเขา “ขอฉันพักแป๊บนะ..ซักงีบ”
ทั้งสองคนเงียบไป เสียงรอบข้างเริ่มชัดขึ้น แบรนด์ทเท้าคางมองเด็กเล็กรอบๆตัว เขาชำเลืองมองคนแก่กว่าแต่ทำตัวเป็นเด็กกว่ามากเช่นกันข้างๆเขา เบนจี้เริ่มจะกรนออกมา แบรนด์ทยิ้มก่อนจะเลื่อนหัวของเบนจี้มาวางบนตักอย่างเบามือ แล้วหันไปทำเสียงชู่วกับเด็กน้อยที่เล่นกันอยู่บริเวณนั้น เด็กๆทำเสียงชู่วกลับ พวกเธอหัวเราะคิกคัก
เบนจี้ที่ใกล้หลับรู้สึกว่าหน้าเขาร้อนไปหมด
.
.
.
“ต่อไปไปไหนล่ะ”แบรนด์ทกอดอกถาม เขามองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เวลาใกล้มืดแล้ว น่าจะเหลือเวลาเล่นเครื่องเล่นอีก1ที่ก่อนขบวนพาเหรดเริ่ม เบนจี้หัวเราะหึในลำคอราวกับมีแผนมาก่อน แบรนด์ทเลิกคิ้ว
“ไป บ้านผีสิง กันเถอะ!!”เบนจี้ผู้ได้รับการชาร์จแบตเต็มแล้วตะโกนเสัยงดังแล้วลากแบรนด์ทไปตามทางไปบ้านผีสิงตามสเต็ป แบรนด์ทเบ้ปาก
“ผีเก๊น่ะนะ สวนสนุกของเด็กๆนี่มันจะมีของน่ากลัวได้ยังไง” ก็โรลเลอร์โคสเตอร์ของนายไง เบนจี้คิดอย่างเหนื่อยล้า พวกเขาเดินมาอยู่หน้าบ้านผีสิงเรียบร้อย
“จะสนุกไม่สนุกไม่รู้ล่ะ เล็ทสโก!!”แล้วเบนจี้ก็จูงมือเขาเดินนำเข้าไป
ภายในมืดสนิท มีเสียงเหมือนหนังสยองขวัญเปิดคลอเบาๆแต่ได้ใจ แบรนด์ทบอกตามตรงว่าเขาไม่ถนัดรับมือกับอะไรแบบนี้จริงๆให้ตาย…
รอบข้างเป็นบรรยากาศหลุมฝังศพ มีกระดูกเกลื่อนไปหมด พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ “เฮ้ย!!”เบนจี้ร้อง แบรนด์ทกอดหลังเบนจี้แน่น
“อ อะไร…”แบรนด์ทซ่อนตัวเขาอยู่หลังแผ่นหลังผอมของเบนจี้
“ศ ศพมินนี่เม้าส์…. โถถ่ ยัยหนูของฉัน”เบนจี้แสร้งทำหน้าจะร้องไห้ทั้งที่ในใจหัวใจเต้นจนแทบระเบิด แบรนด์ทกอดฉันว่ะ แบรนด์ทกอดอ่ะ แบรนด์ทน่ารักจังว้อยยย
“อย่าทำให้ตกใจสิเฮ้—–!!!!!”แบรนด์ทละออกจากหลังเบนจี้แล้วเดินนำไปสองก้่วก่อนจะเจอมินนี่เมาส์ที่นอนอยู่จับขาหมับ ตากลวงโบ๋มองเขา แบรนด์ทตัวแข็งไปก่อนจะร้องลั่นแล้วโดดไปเกาะเบนจี้ตามเดิม
“อ โอเคนะ–“
“เดินไป! พาฉันออกไปทีให้ตาย!!”
เบนจี้ไม่รู้จะมีความสุขหรืออะไรดี แบรนด์ทตอนนี้แม่งน่ารัก….เป็นบ้า
“นายกลัวเร—–“
“เปล่า!”แบรนด์ทดันหน้าเบนจี้ออกไป เบนจี้มองหงอยๆ แบรนด์ทมองทางมืดๆข้างหน้าด้วยสายตาหวั่นๆ เสียงสยดสยองยังคงดังไม่ขาดสายคลอกับเสียงกรี๊ดกลุ่มผู้เล่นก่อนหน้า ดวงตาสีเขียวลุกลิกอย่างหวาดหวั่นแล้วเหลือบมองกลับมาที่เบนจี้”ฉัน…ไม่ได้กลัว…”
บอกตามตรง เบนจี้เริ่มนึกสนุก
ตอนนี้เบนจี้เดินนำแบรนด์ท เขาเลยเริ่มการแกล้งช่ยข้างหลังด้วยการร้องโวยวายให้แบรนด์ทสะดุ้ง และทุกครั้งที่แบรนด์ทตกใจ เขาจะพุ่งเข้ามากอดเบนจี้….
แบรนด์ทกัดฟันกรอดและแช่งเบนจี้ไปพลาง ส่วนเบนจี้ก็ได้แต่คอยแกล้งอย่างสุขสันต์
“เบนจี้ ให้ตาย ฉันรู้นะว่านายกำลังแกล้งฉั—-อ๊าาาา”แบรนด์ทจับมือเบนจี้แน่น ตรงข้างๆมีหัวกู๊ฟฟี่เด้งมา ทำไมไอ้ของเล่นทำลายความฝันเด็กนี่ถึงมาอยู่ในดิสนีย์แลนด์!!
เบนจี้หัวเราะก๊าก ตรงหน้าอีกสองเลี้ยวจะเป็นทางออก”เปล่าเลยนะแบรนด์ท เปล๊าเปล่า”
มือของพวกเขาจับกันแน่น
“ต่อไปจะไปไหน ฉันนึกว่านายจะไปดูพาเหรดซะอีก”
แบรนด์ทมองเบนจี้ที่ยังจับมือเขาไม่ปล่อยและกำลังจะลากพาพวกเค้าไปที่ไหนสักแห่ง
“ชิงช้าสวรรค์น่ะ.. มันมองพาเหรดจากบนนั้นสวยกว่า เด็กๆที่ขบวนพาเหรดน่ะเยอะแยะจนน่าปวดหัวจะตาย”เบนจี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาก็ชอบเด็กนะ แต่มีเยอะเกินไปนี่ก็ไม่ไหว
“ฉันชอบนะ เด็กเยอะๆ..”แบรนด์ทก้าวเท้าขึ้นกระเช้า ตามด้วยเบนจี้ กระเช้ากำลังลอยขึ้น
“นายอยากมีลูกมั้ย?”แบรนด์ทสะดุ้งตัวโยนจนหัวชนกระเขงช้าดึงกึง
“โอ โอ๊ยย…. จ จะว่าอยากมั้ยก็อยาก แต่พวกผู้หญิงไม่ค่อยชอบฉันนี่นะ”แบรนด์ทลูบหัวและโอดโอยอย่างเจ็บปวด เบนจี้มองอย่างขบขัน อันที่จริงสาวๆที่สนใจแบรนด์ทก็มีเยอะ แต่เพราะอีธานนี่สิน้า….
“เรอะ แต่คนทำง่นอย่างเราๆคงไม่เหมาะจะมีครอบครัวสักเท่าไหร่อยู่แล้วนี่นะ”เบนจี้มองพาเหรดข้างล่างด้วยแววตาเปี่ยมสุข
“นั่นสิ…. แม้แต่แฟนฉันยังไม่เคยมีเลยหลังทำงานนี่”แบรนด์ทถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามองไปที่พาเหรดข้างล่างบ้าง เสียงดนตรีสนุกๆดังคลอกับเสียงวี้ดว้ายของเด็กๆ”ถ้าจำไม่ผิด นายเคยคบกับเจน?”
“เฮ้ย เปล่าๆๆๆ แค่แอบปิ๊งน่ะ… แล้วก็อกหัก ไปตามระเบียบ”เบนจี้ทำหน้าจะร้องไห้พลางนึกถึงสาวผิวสีสุดแกร่งคนนั้น แบรนด์ทผิวปากแซวนิดๆ เบนจี้ม้องค้อนใส่เขา แบรนด์ทยักคิ้วกลับ
พวกเขาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ดวงดาวถูกแสงจากพาเหรดบดบังแต่ก็ยังเห็นได้ชัดเจนเมื่อขึ้นมาถึงจุดบนสุด ท้องฟ้ามีดวงดาวประดับพร่างพราว แบรนด์ทมองมันแล้วก็แอบยิ้มโดยไม่รู้ตัว เบนจี้มองเขาราวกับต้องมนต์สะกด
“เฮ้ แบรนด์ท”
“อะไร”
เขาประสานตากัน ดวงตาของแบรนด์ทเจือความสงสัย
“ฉัน…จูบนายได้มั้ย”
ดวงตาแบรนด์ทเบิกกว้าง เบนจี้เอื้อมมือไปสัมผัสหน้าเขา เบนจี้โน้มตัวไปข้างหน้า แบรนด์ทขยับตัวจนชิดกับผนังกระเช้า
“ถ้าไม่ตอบ แปลว่าตกลง…ใช่มั้ย”
แบรนด์ทไม่ตอบ
ริมฝีปากบดเบียดกัน แบรนด์ทคิดว่าเคราของเบนจี้ทำเขาจั๊กจี้ หน้าของเขาแดงก่ำ เบนจี้ไม่สอดลิ้นเข้ามาแต่ก็เอาแต่ประทับจูบบนริมฝีปากของเขาแล้วดูดดื่มมันอย่างหื่นกระหาย คนอายุน้อยกว่าเอื้อมมือไปเกาะไหล่ชายร่างผอมตรงหน้า เบนจี้เอื้อมมือไปประคองแก้มอวบไว้
พวกเขาจูบกันเป็นเวลานานท่ามกลางเสียงดนตรีพาเหรด เบนจี้ละออกจากแบรนด์ท ร่างอวบแตะริมฝีปากตัวเองขณะที่หน้าแดงก่ำ เบนจี้หอบหายใจเขาทรุดตัวลงที่นั่งของเขาแล้วปิดหน้าตัวเองแล้วส่งเสียงร้องโอดครวญเพราะเขินอาย แบรนด์ทมองเขา
“ฉัน…ไม่ใช่หนุ่มเวอร์จิ้น…แล้วแท้ๆ… “แบรนด์ทปิดหน้าตัวเองแล้วโอดครวญบ้าง พวกเขาเหลือบมองกัน ต่างคนต่างก็ยังหน้าแดงไม่หาย
“ฉันชอบนาย!”เบนจี้ตัดสินใจพูดก่อน “เป็นแฟนฉันเถอะนะ!!”
แบรนด์ทมองเบนจี้ที่สไลด์ตัวลงคุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาของเขาเพราะพื้นที่บนกระเช้ามีน้อยเหลือเกิน แบรนด์ทอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูก..
“บอกตามตรงนะเบนจี้… ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันมองนายเป็นเพื่อน..”แบรนด์ทวางมือบนไหล่เบนจี้ “ต แต่… ตลอดเวลาที่ผ่านมานับจากปฎิบัติการไร้เงา นายทำตัวดีกับฉัน นาย… ฉันอธิบายไม่ได้ ฉันคิดว่าการอยู่กับนายมันก็ไม่ได้เลวร้าย..อะไร”เบนจี้ลุ้น แบรนด์ทหลบตาแป๋วแหววที่กำลังจ้องมองเขา เขาหน้าร้อนฉ่า
“ฉันไม่คิดว่ามันจะใช่อย่างที่ฉันคิดมั้ย… ฉันคิดว่าฉัน.. ชอบนาย——“
แล้วเบนจี้ก็จูบเขา แน่นอนว่าคราวนี้เขาใช้ลิ้น
◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆
[แถม]
เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันขัดกับเสียงครางกระเส่า ชายร่างอวบพยายามปิดหน้าตัวเอง แต่เบนจี้ก็ดึงมือหนานั่นออก
“หน้านายน่ารักออก”เสียงเขาหอบ แบรนด์ทจิ๊ปากอย่างขัดใจ เขาร้องตัวโยนเมื่อโดนกระแทกเข้ามาอีกที มือหยาบกำผ้าปูที่นอนแน่น ดวงตาสีเขียวสวยน้ำตาคลอเข้ากันดีกับแก้มสีแดงร้อนฉ่า
“อ..อย่า อื๊อ มัน ไม่ไหว ฮ้า!”แบรนด์ทเชิดหน้าขึ้น เท้าเขาจิกผ้าปูที่นอนแน่น รู้สึกได้ถึงน้้ำอุ่นๆถูกฉีดเข้ามาในตัว แบรนด์ทชำเลืองมองอีกคนเคืองๆ
“ท โทษที ฉันเอาออกไม่ทัน.. “เบนจี้กำหัวก่อนจะทิ้งตัวลงนอนตามแบรนด์ท ร่างอวบมุดเข้าผ้าปูที่นอนแล้วโผล่หน้าขึ้นมาพูดกับเขาอย่างเหนื่อยอ่อน
.
“..แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดันน์”
“ถามจริง นี่นายอยากโดนอีกสักยกรึไง ฉันเก็บกดมานา—“
“ฉันบอกเลิกนายได้นะเบนจี้”
♥