[FIC HORMONES3]หลังม่าน(PART4)

Title:หลังม่าน

Pairing:นนบอส

Rate:Angst

Part: 4

Note:สวัสดีค่ะ แผนค่ะ

นังแผนที่กำลังอยู่ในมรสุมสอบเรียนต่อค่ะ ท้ายเทอมที่มีทั้งสอบ งาน หาที่เรียนนี่ช่างสาหัสจริงๆค่ะ น้ำตาไหลเป็นเลือด

ก็จะหาเวลาพิมเงียบๆ สครีมแอบๆในกูเกิ้ลดอคค่ะ.. โคตรน่าเศร้า แต่เป็นที่เดียวที่ถึงไม่มีเน็ต ไม่มีทวิตเตอร์ก็มีความสุขได้ ก๊ากกกก

ส่วนตัวฟิคนี้ บอกตามตรงว่าอยากแต่งตอนต่อมากๆ แต่มีเหตุบางประการต้องเพิ่มเส้นเรื่องแล้วยืดเนื้อเรื่องออกไป ๕๕๕๕๕๕ แหมคุณ แต่มันก็สนุกดีออก

อย่างไรก็ตามแต่ เชิญไปอ่านกันเหลย :”D

หลังม่าน

ถ้าการฟังความจริงนั้นเจ็บปวด

หากเลือกได้จะขอฟังคำโป้ปดขอเธอตลอดไป

 

“ตอนนี้เราดีกันแล้วใช่ป่ะ”

 

“หา”

 

“เรา คืน ดี กัน แล้ว ใช่ ป่ะ”

นนพูดช้าๆ ชัดๆ สร้างความงุนงงให้คนถูกถาม

 

“คืนดีอะไร”

 

“ก็เนี้ยะ กูกับมึงไม่คุยกันข้ามปีเพราะเรื่องสภา แต่ตอนนี้มึงยอมมาทะเลกับพวกกู ยอมนั่งข้างกู คุยกับกูด้วย.. อ่า พูดไปพูดมาน้ำตาจะไหล”

มันทำท่าปาดน้ำตา “สรุปว่าตอนนี้ กูกับมึงดีกันแล้วใช่ป่ะ”

 

เหมือนหมาเลยว่ะ

 

บอสสะบัดหัวไล่ความคิดเมื่อครู่ออกไป แล้วตอบคำถาม

 

“ขอพูดก่อนเลยนะว่า กูมาทะเลกับมึง เพราะออยอยากเที่ยวทะเล กูทำเพื่อสุขภาพจิตที่ดีของออย”

บอสพูด ตาหม่นใต้แว่นตวัดไปมองร่างผอมของแฟนสาวที่กำลังโยนลูกบอลเล่นอยู่กับ.. ชายที่เรียกได้ว่าเป็นแฟนเก่า

 

คิ้วกระตุกหน่อยๆ แต่ไม่ว่ากัน

 

นนยังคงตั้งหน้าตั้งตาฟังอย่างใจจดจ่อ เด็กหนุ่มปาดเหงื่อ เอาขวดน้ำเปล่าแนบแก้มแล้วพูดต่อ

 

“ซึ่งก็นับว่าดี ออยดูร่าเริง กูเองก็ไม่ได้ไม่ชอบทะเล ถึงมันจะร้อนไปหน่อยก็อยู่ได้ ส่วนเรื่องคืนดีกับมึง….”

บอสนิ่งเงียบไป ทำท่าใช้ความคิด นนกอดลูกบอลยางรอคำตอบอย่างตั้งใจ “กู.. ไม่รู้”

 

“เอออออ๋”

เสียงทุ้มร้องดังบอกระดับความตกใจ มือร้อนเอื้อมมาเขย่าไหล่บางรัวๆ บอสสะบัดออก รำคาญ

 

“ทำไมถึงไม่รู้ล่ะมึงงง นี่กูนึกว่ากูกับมึงเราซี้กันไม่มีเกาเหลาแล้วซะอีกกก”

ไม่ว่าเปล่า ยกแขนขึ้นโอบรอบคอ สัมผัสชื้นและความสากสกปรกของทรายทำให้น่าหงุดหงิดใจ เด็กหนุ่มในชุดเต็มยศไม่โดนน้ำสักหยดสะบัดแขนนั้นทิ้งอย่างรำคาญ แต่หุ่นถั่วงอกรึจะสู้เพื่อนนักกีฬาโรงเรียนอย่างไอ้ณัฐชนนได้ ท้ายที่สุดก็ปล่อยให้มันกอดคอไป เบะปากแสดงถึงความรำคาญอย่างสุดซึ้ง

 

“ไม่รู้ ไม่รู้โว้ย”

 

“ตอบกูดิบอสสส เราคืนดีกันยังมึงงง”

 

“หนวกหูน่า ไม่รู้โว้ย!”

 

******

 

ปกตินนเป็นคนโหวกเหวก ทำตัวน่ารำคาญ

แต่ตอนนี้กลับเงียบจนน่ากลัว

 

“กูส่งถึงแค่บีทีเอสละกันนะมึง”

มันหยุดเดิน หันหน้ามาพูดเสียงเนือย ไม่มีรอยยิ้มส่งมาเหมือนทุกครั้ง

 

“เออ กลับดีๆล่ะมึง”

กระชับตุ๊กตาในอ้อมแขน ขาก้าวเข้าตัวรถไฟฟ้า เสียงเตือนดังบอกสัญญาณประตูปิด เมื่อหันหลังกลับไป นนที่ยืนหลังเส้นเหลืองกำลังส่งรอยยิ้มมาให้

 

“ขอบใจน้า ที่มาเที่ยวด้วย”

รอยยิ้ม ที่ไม่เหมือนรอยยิ้มที่ส่งให้ปัง

.

แล้วประตูบีทีเอสก็งับลง

 

ร่างถลาไปยึดกับเสา ศรีษะพิงเสาเย็นๆ เหม่อมองไปในความมืดของอุโมงค์ใต้ดิน

 

ภาพของขนมปังกับใครคนหนึ่งฉายซ้ำในหัวสมอง

 

น้ำเสียงร่าเริง มือสองข้างจับกันมั่น บทสนทนาที่มีแต่คำหวาน แม้ไม่อยากฟังก็ได้ยินชัดเจน

 

อา ปวดหัว..

.

นี่จะเรียกว่า กรรมตามสนองได้มั้ยนะ

.

ตลอดเส้นทางกลับบ้าน มันไม่ชวนเขาคุยเหมือนทั้งวันที่เดินเที่ยวด้วยกันมา น้ำเสียงร่าเริงก็เปลี่ยนไปเหมือนอย่างที่เห็น

 

การชวนคุยก็ไม่ใช่เรื่องถนัดของเขาเสียด้วยนี่นะ..

 

จะเป็นยังไงต่อไป ก็รอวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็แล้วกัน

 

นึกแล้วก้มลงมองตุ๊กตาสนู๊ปปี้ในอ้อมกอด

.

รู้สึกได้

ว่าในใจกำลังปวดอย่างไร้เหตุผล

จริงๆแล้วถ้าให้หาเหตุผลสักข้อ..

.

เลิกคิดถึงมันเถอะ

 

มือกดเบอร์โทรศัพท์ ฟังเสียงรอสายเฝ้ารอปลายสายตอบรับ

 

ติ๊ด

 

เขาหลับตา ถอนหายใจพรืด ก่อนจะเอ่ย

“..ออย”

 

*

.

.

“แปลกใจจังที่บอสขอมาที่บ้านตอนวันหยุดแบบนี้”

เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอชวนให้รู้สึกโหวงในใจ ออยจัดโต๊ะติวหนังสือให้เหมือนวันปกติที่มาติวตอนเลิกเรียน

 

“ไม่ต้องจัดโต๊ะติวหรอกออย”

เด็กหนุ่มวางประเป๋าลงบนเตียง ตามองไปยังโทรทัศน์เครื่องพอเหมาะเครื่องเดียวในห้อง “ดูหนังกัน ได้มั้ย?”

 

ออยทำหน้าแปลกใจ เธอยืดตัวตรง ดวงตาคู่สวยมองแฟนหนุ่มของตนที่นั่งอยู่บนปลายเตียงนุ่ม ดวงตาเหม่อลอย ในมือมีDVDแผ่นหนัง เด็กสาวโคลงหัวไปมารู้สึกประหลาดใจเล็กๆ แต่ก็พับโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กเก็บไป

 

ย่างเท้าเข้าไปหยิบแผ่นหนังในมือมาดู พลิกกล่องไปมา รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง

 

“หนังรัก?”

 

“อืม”

บอสพยักหน้า ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ถอนหายใจแรงในอ้อมกอดมีตุ๊กตาสนู๊ปปี้ ออยเดินไปเปิดเครื่องเล่น เปิดโทรทัศน์ ใส่แผ่น กดเลือกคำสั่งเล่น เดินไปนอนบนเตียงมั่ง

 

ออยนอนตะแคงมองแฟนหนุ่มที่กำลังมองเพดานสีขาวอีกที ปล่อยให้เสียงโฆษณาสั้นเล่นผ่านไปเรื่อยๆ

ในหัวมีคำถามและความไม่เข้าใจมากมาย

 

“หาดาวมาติดดีมั้ยนะ”

เสียงทุ้มเอ่ย ออยมองไปบนเพดานบ้าง

 

“อื้ม.. นั่นสินะ ตอนกลางคืนคงจะสวยดี”

ว่าจบก็ยันตัวขึ้นมานั่งแล้วลงจากเตียง เดินไปยังประตู “เราว่าเราไปเอาขนมข้างล่างมากินตอนดูดีกว่า กดหยุดรอหน่อยนะ”

 

“ให้ช่วยไหม”

ถามทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกจากเพดาน

 

“อื้ม ไม่ต้องหรอก”

.

บอสแปลกจังนะวันนี้

หอบน้ำและซองขนมจุกจิกพะรุงพะรังขณะขึ้นบันได ในหัวกำลังคิดว่าควรจะถามถึงต้นเหตุความประหลาดนี้หรือปล่อยไปดี

 

ถึงหน้าห้อง ขณะกำลังเอื้อมมือไปเปิดอย่างทุลักทุเล บอสก็เปิดประตูให้เสียก่อน

แขนผอมยื่นมาเป็นเชิงว่าจะช่วยถือ ออยส่งของกินในมือให้ก่อนจะปิดประตูตาม เด็กหนุ่มตรงดิ่งไปนั่งบนพื้น เอนหลังพิงเตียง ตั้งท่าเตรียมดูเรียบร้อย

 

ในมือถือรีโมทเตรียมจะกดเล่นต่อ

 

แล้วออยก็ลบความคิดที่จะถามคำถามพวกนั้นไป

 

.

.

“ตุ๊กตาน่ารักจังนะ”

ขณะที่หนังกำลังเล่น ออยก็พูดโพล่งถึงตัวสนู๊ปปี้ในอ้อมแขนของแฟนหนุ่มข้างกาย คนที่กำลังดูดน้ำหยุดชะงัก เธอเอียงคองงเล็กน้อย แต่ก็พูดต่อ “ไปได้มาจากไหนเหรอ”

 

“ได้มาตอนไปห้าง เห็นมัน…. น่ารักดี”

เขาตอบ สายตายังจดจ้องไปที่จอโทรทัศน์

 

“ชอบอะไรพวกนี้เหรอ ไม่เคยรู้เลย”

มือบางยื่นไปลูบตุ๊กตา จับหูสีดำเล่น ลูบไปมาเบาๆ

 

“…ตอนเด็กๆเคยดูน่ะ มันก็น่ารักดี”

ออยว่าเธอเห็นใบหูของเขาขึ้นสีแดงเล็กน้อย

 

“ไม่เอาน่า ไม่เห็นต้องอายเลย เป็นผู้ชายชอบอะไรพวกนี้ไม่แปลกนะ”

ออยหัวเราะร่วน มือเปลี่ยนไปลูบผมทรงถูกระเบียบของชายสุดเนี๊ยบ “มันน่ารักขนาดเนี้ยะ เราไม่เคยดูยังชอบเลย”

 

เด็กหนุ่มนั่งชันเข่า ยกตุ๊กตาขึ้นกอดรัดกว่าเมื่อครู่เล็กน้อย แล้วเงียบไป

.

..อืมม ไปพูดอะไรให้ไม่ถูกใจรึเปล่านะ

.

“บอสชอบหมาเหรอ?”

ลองชวนคุยต่ออีกนิดนึงละกัน

.

“..ก็ไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบ”

.

“เหรอ..”

ออยนั่งชันเข่าบ้าง โคลงหัวไปมามองแฟนของตนที่ดูจะสนใจหนังมากๆ

 

หันไปจ้องมองโทรทัศน์บ้าง ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรขนาดนั้นนี่นะ

คิ้วเรียวขมวด ทำแก้มป่องน้อยๆ หันไปมองบอสที่จนตอนนี้ยังไม่ให้ความสนใจตัวเธอแม้แต่น้อย ตาคู่หม่นนั้นไม่ได้จ้องมองโทรทัศน์ด้วยซ้ำ.. เหม่อไปถึงไหนกันนะ

 

คิดว่าระยะเวลาปีเศษ จะเข้าถึงกันมากพอแล้วเสียอีก

เธอเม้มปากนิดๆ ก่อนจะเอ่ย

 

“เฟิสต์น่ะ เค้าชอบหมามากๆเลยนะ”

 

“หืม?”

เด็กหนุ่มหันมามองอย่างงุนงง

ทำไมจู่ๆถึงพูดถึงเฟิสต์.. ตามไม่ทัน

 

ออยกระชับแขนที่กอดเข่าตัวเองไว้ เม้มปากเล็กน้อย สัมผัสได้ว่าตัวสั่นเบาๆ

“คือ.. ไม่มีอะไรหรอก แค่พูดถึงให้ฟังน่ะ”

 

“..อืม”

บอสส่งเสียงตอบรับในลำคอ เลนส์แว่นสีใสสะท้อนหน้าจอโทรทัศน์

 

“แล้วก็นะ เฟิสต์เนี่ย ยิ้มน่ารักมากเลยล่ะ”

หยุด.. ต้องหยุด

 

ร่างผอมชะงักไปอีกครั้ง หันมองแฟนของตนด้วยสายตาไม่เข้าใจ

“ออย?”

 

“เฟิสต์อ่ะ ถึงไม่ค่อยสนใจเรา แต่เค้าอบอุ่นมากๆเลยนะ”

..กำลังพูดอะไรอยู่

 

“ใจดี ยิ้มให้บ่อยๆ เวลาอยู่กับน้องหมาก็น่ารักมากๆ”

“บางทีเราก็คิดนะ ว่าระหว่างเฟิสต์กับบอส ใครสนใจเรามากกว่ากัน”

“บอสทำให้เรารู้สึกน้อยใจน้อยมากนะ”

 

“แต่บางครั้ง…. เราก็รู้สึกว่าถ้าอยู่กับเฟิสต์ คงมีความสุขมากกว่านี้”

 

เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ เมื่อเห็นหยาดน้ำสีใสร่วงหล่นลงจากแก้วตาสีหม่น

 

“.. เราทำอะไรไม่ดีลงไปเหรอออย”

เขากลืนน้ำลาย ก่อนจะเอ่ยคำถาม ออยหลับตาแล้วสั่นหัวไปมา

.

“ไม่บอส ไม่”

.

“..ออย บอกเราสิ”

มือบางเอื้อมไปจับไหล่ผอมของอีกคน ปล่อยตุ๊กตาสนู๊ปปี้ลงบนพื้น เสียงสะอื้นไห้เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ

 

“ไม่บอส…. เราพูดไม่ได้”

 

กลัว

ที่จะพูดคำๆนี้ออกไป

 

“…บอส กลับไปก่อนได้ไหม”

มือที่จับไหล่ผอมนั้นชะงักกึก

ตาหม่นสองคู่สบกัน ล้วนแต่มีแววตาปวดใจทั้งสิ้น

 

บอสปล่อยมือออก ชั่งใจว่าควรจะกอด หรือไม่กอดคนตรงหน้าดี ถอนหายใจเฮือกใหญ่

 

แล้วเขาก็เดินออกมา

โดยไม่ลืมตุ๊กตาที่มองเมื่อไหร่ก็ชวนให้คิดถึงคนคนนึง

คนที่ทำให้เขาไม่มั่นใจในหัวใจของตัวเอง

 

ทั้งๆที่คิดว่า พอมาอยู่กับออยจะทำให้ผ่อนคลายขึ้นแท้ๆ

แต่ในหัวก็หยุดคิดถึงใบหน้าหงอยเหงาของมันไม่ได้

 

จะหายเศร้าหรือยัง คุยกับปังหรือยัง

 

ทั้งที่ควรกังวลเรื่องออยแท้ๆ

.

คนเลวเอ๊ย
.

********

 

ที่แรกที่ตรงไปหลังจากจอดจักรยานที่โรงจอดรถจักรยานคือห้องสภา

.

มือดันประตูให้เปิดเข้าไป มาแต่เช้าตรู่แบบนี้.. ต้องการอะไรกันนะตัวกู

ก็แค่นึกไม่ออกว่าสองคนนั้นจะไปเจอกันได้ที่ไหน นอกจากที่นี่

แต่เอาเข้าจริง นนมันไปคุยกับปังที่บ้านก็ได้ นัดเจอที่ห้างก็ได้ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาเฉพาะห้องสภาสักนิด… นึกแล้วขยุ้มผมตัวเอง ถอนหายใจแรง

.

ออยจะเป็นยังไงบ้าง นี่คือความคิดรองลงมาจากเรื่องไอ้นน

.

กูเป็นเด็กม.6… ที่ควรมุ่งเป้าไปที่การสอบเรียนต่อสินะ

 

จนแล้วจนรอดในตอนนี้ ห้องสภายังคงว่างเปล่า

เด็กหนุ่มเดินออกจากห้องสภา สวมรองเท้า เดินไปยังลานหอประชุมเพื่อเข้าแถวยามเช้า

 

หางตาเหลือบไปเห็นแถวของห้องม.6ที่อยู่ใกล้กัน

 

ร่างชุ่มเหงื่อของเฟิสต์กำลังสวมเสื้อนักเรียนอย่างทุลักทุเลหลังจากผ่านการวิ่งยามเช้า ขาปั้นวิ่งมาแทรกเข้าแถวกับกลุ่มเพื่อน ยิ้มตาหยีอย่างเป็นมิตรดังเคย

 

เหมือนร่างจะอยู่ในรัศมีสายตาของตาตี่นั่น เฟิสต์หันมายิ้มยิงฟันใส่ โบกมือทักทายพอเป็นพิธี เด็กหนุ่มผงกหัวรับ

 

หันไปอีกทาง ออยกำลังมองมาทางตัวเขา หากสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่าใต้ขอบตาคล้ำและบวม

อยากเข้าไปพูดขอโทษ แล้วกอดเธอไว้เหมือนที่เคยทำในห้องพยาบาลตอนนั้น

.

.

.

ไม่สิ

 

หากสังเกตสายตาที่กำลังจ้องมองมาดีๆ ตาหม่นคู่นั้นไม่ได้จ้องมาที่เขา

เธอกำลังมองเฟิสต์ต่างหาก

 

*เม้าท์นิด*

มาต่อข้างล่างนิดนุงนะเธอนะ

พอดีเพิ่งสำนึกได้ว่าไม่ได้แปะรูปลงบล๊อคนานเท่าไหร่แล้ว ฮ่าาาาา

จริงๆก็วาดเรื่อยๆนะคะ อยากเอามาลงในนี้ด้วย แต่หาจังหวะเหมาะๆไม่ได้สักที..

วันนี้ก็ฮึดพิมยาวกว่าเดิมนิดโหน่ย…

(อ่ะๆ ลงภาพๆ)

This slideshow requires JavaScript.

ระลึกได้แล้วว่าอยู่สาย #มโนเองแต่งเองเขียนเองอ่านเองแฟนอาร์ตเองสนุกเองอร่อยเอง

การได้ทำทั้งวาดทั้งแต่งฟิคพล๊อตที่ตัวเองชอบนี่มันสนุกจริงๆค่ะ แม้ว่างานจะค้ำคออยู่ก็ตามแต่

ต้องกลับไปเขียนงานแล้วค่ะ.. ซียูนะ จู๊บ

 

[FIC HORMONES3]หลังม่าน(PART3)

Title:หลังม่าน

Pairing:นนบอส

Rate:Angst

Part: 3

Note:สวัสดีค่ะ แผนเองค่ะ สาหัสกับการอ่านหนังสือมากๆค่ะ

ช่วงนี้เวลาจะพิมฟิคก็พิมในกูเกิ้ลดอคสะสมไว้ วันนึงก็ไม่ได้พิม วันนึงก็3บรรทัด นี่ก็มาพิมทีเดียวเอาวันศุกร์เลย..

เรื่องยาวนี่สาหัสจังนะคะ ฮอล

จากตอนที่แล้วมีแต่คนบอกว่าออยเนี่ยน่ากลัวจัง รู้สึกผิดคาดนะคะเนี่ย เพราะเรากะจะแต่งออกมาให้น่ารักแท้ๆ ฮาาา

ส่วนใครที่หมั่นไส้นนก็.. คุณทำถูกแล้วข่า55555 เกลียดมันเถอะะะ

อารมณ์เด้งไปเด้งมาตามเพลงที่ฟังระหว่างแต่งน่ะค่ะ อ่านแล้วคงจะรู้สึกแปลกๆหลายจุด แต่หญิงไม่ไหวแร้วคุณๆ…. //ขอรับบาปนี้ไว้แต่เพียงผู้เดว//กราบบบบ

ก็ขอให้สนุกกันนะคะ เจอกันตอนหน้าค่า

ปล.บทสนทนาในบางช่วงที่เห็นเราบ่นไปในทวิตแล้วบ้างก็ขอให้ช่วยเมินๆไปเถอะนะคะ.. ก็มันชอบนี่นา อยากเอามาลง ;w;)))

หลังม่าน

ถ้าฉันไม่คิดที่จะครอบครองเธอ

มันคงไม่ทำให้ตัวฉันต้องมองย้อน

ทุกเรื่องทุกครั้งที่ฉันละเลยเธอ

กลับปรากฎตัวให้ได้มองเห็นก่อนนอน

 

ร่างกายเย็นเฉียบจนน่าใจหาย สัมผัสชื้นแฉะกับความสากเล็กน้อยของทรายที่เปื้อนเปรอะตามร่างกาย รู้สึกได้ว่าร่างของตนกำลังสั่น

 

ไม่ใช่เพราะหนาว

แต่เพราะคนตรงหน้ากำลังจะตาย

 

เสียงโหวกเหวกดังรอบตัวช่างน่ารำคาญ ทันที่ที่ได้สติก็รีบประสานมือกดลงบนหน้าอกของร่างไร้ลมหายใจตามจังหวะและความรู้ที่เรียนมา

 

หายใจ หายใจเถอะ

 

โน้มตัวลงไปเชยคางในระดับพอเหมาะ ทับริมฝีปากลงไปแล้วเป่าลม

 

ทำซ้ำสลับไปมากับปั๊มหัวใจ มีคนรอบข้างยืนให้กำลังใจไม่ห่าง จนในที่สุด

 

“แค่ก.. แค่กๆๆ”

 

“เฮ้ย!ฟื้นแล้ว!!”

 

เสียงร้องเฮดังลั่นทั่วอาณาบริเวณ คนเกือบตายเมื่อครู่ยันตัวขึ้นจากพื้นทราย กุมหัวแล้วมองรอบตัวอย่างงุนงง ก่อนจะถาม ก็ตกใจกับการมีคนโผเข้ามากอดเต็มรักเสียก่อน เด็กสาวปล่อยโฮ มันกอดตอบอย่างทุลักทุเล มือลูบเส้นผมเปียกน้ำของเธอ

 

“อย่าทำแบบนี้..ฮึก อีกนะ ฮึก”

 

“ขอโทษนะ..”ริมฝีปากสวยได้รูปที่ตอนนี้ซีดเซียวยกยิ้มจาง ใบหน้ายังคงไร้สี ตาหม่นตวัดมามองคนช่วยชีวิต “มึง.. ช่วยกูไว้เหรอ”

 

“เออแหงสิ คนบ้าที่ไหนไม่รู้ขาเป็นตะคริวจนจมน้ำตรงเขตน้ำลึก”

 

“..ถามแต่นี้มีประชดประชัน”เสียงทุ้มปนแหบกลั้วหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อก็หันไปรับผ้าจากทีมกู้ภัย “คงต้องไปโรงพยาบาล” ว่าแล้วก็ถูกทีมกู้ภัยยกตัวขึ้น เด็กสาวข้างตัวเดินตามไปไม่ห่าง

 

ร่างสูงเท่าท่าจะก้าวตามไป แต่ก็โดนฝูงชนขวางทางไว้เสียก่อน

 

“เก่งเหมือนกันนะมึงอ่ะ ทำCPRคล่องตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

“ตั้งแต่จับคู่สอบแล้วได้ดูดปากกับมึงอ่ะแหละ”

 

เด็กหนุ่มหัวเราะร่วนเมื่อเพื่อนสนิททำหน้าเหยเก

 

เพื่อนร่วมทริปกับคนละแวกนั้นเดินเข้ามาชื่นชมความกล้าหาญของเขามากมาย ซึ่งนั่นก็เขินดี

 

มันจะเป็นยังไงมั่งหว่า อยากไปหาจัง

 

ว่าแล้วก็หันตัวมองไปทางรถกู้ภัย ทำท่าจะเดินตามไป

แต่ทว่า

 

“นน”

เสียงใสของเธอดังเข้ามาในโสตประสาท

 

“เมื่อกี้เท่จัง”

เธอยิ้ม เอื้อมมือมาลูบผมที่เปียกแฉะมีเม็ดทรายปนดูสกปรก “อยากไปหาบอสเหรอ?”

 

“บอสมีออยแล้ว เค้าจะไปทำไมล่ะ”

แล้วเขาก็เดินไปกุมมือเธอ

 

*

.

.

 

‘ไปเที่ยวกันมั้ย’

ดวงตาหม่นใต้กรอบแว่นใสจ้องมองข้อความในช่องบทสนทนาสีฟ้าด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจ

 

ตอนนี้08.21น.

 

‘อะไร?’

 

‘เที่ยวกันนน’

 

ตอบในทันทีเลยแฮะ

 

ครืดดดดด ครืดดดดดด

เอ้า โทรมาอีก

 

“อะไรของมึงฮะนน”เลื่อนรับแล้วพูดเสียงแข็งใส่อย่างรวดเร็ว

 

‘กูอยากเที่ยวอ้ะ แต่เพื่อนกุไม่ว่างสักคน แต่คิดว่ามึงต้องว่างแหงมๆเลยมาชวน~’

 

“ไม่อ่านหนังสือวะ”

 

‘เอ้า ก็อยากเที่ยวอ่ะ’

 

“ไม่ กูจะอ่านหนังสือ”

ใช้คำเด็ดขาดไปเลย เลิกตอแยกับกูสักที

 

ก๊อก ก๊อก

 

“บอส เพื่อนมาหาน่ะลูก”

 

ไอ้..สัส

 

มีเสียงหัวเราะดังจากปลายสาย

 

“น้า เที่ยวกันนนน”

เขาขบฟันแน่น

มือบางเอื้อมไปปิดหน้าจอแมคบุ๊คแล้วเดินไปแต่งตัวโดยไม่ลืมบอกให้อีกคนรออยู่หน้าบ้าน

 

ขณะที่กำลังมึนๆงงๆ รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่หน้าโรงหนังแล้ว

 

จะมาเที่ยวห้างเดินเที่ยวไร้จุดหมายก็น่าเบื่อแย่ กูอยากดูหนัง ดูหนังกันนะ

เนี่ย เหตุผลมัน

 

“เชิญเลยค่ะพี่บอส น้องนนเลี้ยง เนื่องในโอกาสพี่บอสยอมมาเที่ยวกับน้อง”

ว่าแล้วผายมือไปทางโซนป๊อปคอร์นหลากรสชาติสีทองอร่ามกับขนมขบเคี้ยวสำหรับโรงหนังตรงหน้า ทำหน้าระริกระรี้น่าต่อยเป็นที่สุด มีการพูดคะขาและแทนตัวด้วยน้องนน เกลียด.. มาก

 

เแล้วเลี้ยงเชี่ยอะไร คนจ่ายค่าตั๋วหนังมันกูไม่ใช่เหรอ

 

ทำไมต้องมาเที่ยวกับคนบ้าอย่างมันด้วยวะ

คนบ้าคงเป็นกูเอง นึกแล้วก็พาลเสียดายวันหยุดที่จะเคลียร์งานและอ่านหนังสอบขึ้นมาดื้อๆ

 

“เอ้าๆ คิดนาน คิดนาน เดี๋ยวน้องนนเปลี่ยนในนะค๊า”

 

“จะอ้วก เลิกพูดแบบนั้นสักทีได้มั้ย”

 

มันเงียบตามคำสั่ง ทำหน้าเศร้าสร้อย ดูลุกลี้ลุกลนตอนเขาเดินไปเลือกของกิน คงจะกลัวสั่งแพง เห็นทำหน้าหมาหงอยแล้วอดเห็นใจไม่ได้ เลยสั่งป๊อปคอร์นชุดแพงสุดมาพร้อมน้ำเปล่า ได้ยินเสียงร้องอือหือเบาๆจากคนข้างตัว มันเหลือบมามองเค้าด้วยสายตาที่อธิบายไม่ได้ขณะกำลังจ่ายเงิน เขาเลยมองมันกลับ

 

“ขอบคุณไว้ซะล่ะ ที่กูไม่กินน้ำอัดลม”

 

“เป็นพระคุณของกูมากจ่ะบอส”

 

แค่นหัวเราะในลำคอ รับป๊อปคอร์น เครื่องดื่ม แล้วเดินเข้าโรงหนังไป

 

หนังที่ดูวันนี้เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆอะไรสักอย่าง ไม่ได้สนใจอะไรมากแต่คิดว่าน่าจะฆ่าเวลาได้เลยยอมเข้ามาดูตามที่มันเลือก แค่บทเกริ่นก็ดูน้ำเน่าอย่างบอกไม่ถูก

 

คนที่ลืมรักเก่าไม่ได้ที่พยายามจะเริ่มต้นกับรักครั้งใหม่

น้ำเน่าซะ

 

แต่ป๊อปคอร์นอร่อยดี แอร์ก็เย็น นั่งตากแอร์ไปจนกว่าจะจบคงไม่เลวเท่าไหร่

 

ดูไปสักพัก มือเย็นสัมผัสได้ถึงความอุ่น พอหันไปข้างๆก็เจอไอ้นนกำลังตาชื้น ตาไม่ละไปจากจอแล้วมือก็.. กำลังกุมมือเขาแน่น

 

อ่อนไหวบ้าอะไร ก็แค่หนังน้ำเน่า

 

ถ้ายังลืมคนเก่าไม่ได้ แล้วให้ความหวังคนที่รักตัวเองทำไม

หรือแค่เพราะคิดว่าถ้ารักคนคนนี้ได้ ก็จะลืมคนในอดีตไป

แต่พอทำไม่ได้ ก็กลายเป็นเจ็บทั้งสองฝ่าย

 

หนังเดินเรื่องมาถึงฉากที่ตัวเอกกับแฟนเลิกกัน หลังจากที่ร้องไห้อย่างหนักหน่วงทั้งสองคนก็เลือกที่จะจบความสัมพันธ์นี้อย่างเรียบง่าย

 

แค่ปล่อยมือ ก็จะไม่เจ็บแล้ว

อาจจะใช้เวลานานที่จะลืมความทรงจำมากมายที่สร้างมา แต่ถ้าอยู่ต่อไปก็รั้งแต่จะทำให้ทั้งสองคนเจ็บมากกว่าเดิม

 

มือที่กุมมือเขาไว้บีบแน่นขึ้นหน่อยๆ

 

รู้งี้น่าจะซื้อทิชชู่เข้ามา

คิดได้ดังนั้นก็ถอนหายใจ มือข้างที่ว่างควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป่ากางเกงแล้วยื่นให้มัน พอรับไปก็สูดน้ำมูกอย่างหนักหน่วงก่อนอันดับแรก เจ้าของผ้าเช็ดหน้าทำหน้าเหยเก

เอ๊อ ช่างมัน ให้ตายสิน่าพ่อคนเซนซิทีฟ

 

‘ช่วยโกหกอะไรหน่อยดิ ขอครั้งสุดท้าย’เสียงใสพูดอย่างยากลำบาก ดวงตาแดงก่ำ ไม่ต่างจากอีกคนเท่าไหร่นัก ชายร่างใหญ่พยักหน้า เขาสูดน้ำมูกแรงๆ

 

‘อื้อ เอาดิ’เขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ยืดตัวตรง จ้องมองเข้าในดวงตาคู่สวยของหญิงสาวตรงหน้า

 

‘เรารักแกมากนะ’เธอยิ้มจนตาหยี แสงแดดยามเช้าเริ่มทอแสงส่องที่ปลายขอบฟ้าเหมือนยามเช้าของทุกวัน ปากยังคงคลี่ยิ้มกว้าง รอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า

 

‘รักเธอเหมือนกัน’

เขาส่งยิ้มที่เธอชอบให้เธอพร้อมกับคำพูดหลอกลวง

 

‘ขอบใจนะ.. กับทุกๆเรื่องเลย’

 

‘ขอบใจเหมือนกัน’

 

‘ต่อจากนี้พยายามเข้านะเว้ย’

 

‘…เธอก็ด้วยนะ’

 

แล้วก็จบลงด้วยรอยยิ้ม

ทั้งที่ในใจไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย

 

เออ น้ำเน่าจริงๆว่ะ

 

“ซิก.. ฮึก”

ไอ้นี่ก็ร้องเข้าไป ไหล่สั่นไปหมดแล้ว เหลือบมองเป็นระยะ ปากเคี้ยวป๊อปคอร์นไปอย่างช้าๆ

 

หนังจบลงที่ภาพของทั้งสองคนตื่นมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ตื่นเช้า แปรงฟัน อาบน้ำ ทำงาน โดยที่ไม่มีคนที่คุ้นเคยอยู่เคียงข้าง

 

สายตาจ้องมองไปยังโทรศัพท์บ่อยครั้ง

สุดท้ายก็ปิดลง

 

*

 

“กูว่าพระเอกแม่งต้องกลับไปขอนางเอกคบแน่ๆ ทั้งน่ารักทั้งเป็นคนดีขนาดนี้”

 

“อ๋อเหรอ”

 

หนังจบคนไม่จบสินะ

 

“แม่ง ไม่น่าเลยกู ควรจะเลือกดูการ์ตูนตั้งแต่แรก หนังเชี่ยอะไรก็ไม่รู้”

มันว่าพลางเช็ดน้ำตาที่ซึมมาอีกรอบน้อยๆ ออกจากโรงปุ๊บถึงกับต้องล้างหน้า น้ำหูน้ำตาไหลหลาก “แล้วมึงคิดว่าไงอ้ะบอส”

 

“กูคิดว่า คงไม่กลับไปรักกันแล้วล่ะ”

 

“เฮ้ย ทำไมคิดงั้นนน”

 

“ถ้ากลับไปรัก ก็รังแต่จะเป็นการให้ความหวังซะมากกว่า”มือบางหยิบชาเขียวสตาร์บั๊คมาดูด สายตามองผุ้คนที่เดินพลุกพล่านอย่างไม่โฟกัสจุดสายตา “แฟนเก่าพระเอกดูมีทีท่าจะกลับมาคบกันซะขนาดนั้น คงไม่มีหวังแล้วล่ะ”

 

นนทำท่าฟึดฟัด “แต่ช่วงเวลาที่พระเอกอยู่กับนางเอกก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอว้าา ตอนเลิกกันก็ดูมีเยื่อใย กูว่าเค้าต้องกลับมาคบกันแน่ๆๆๆๆ”ว่าแล้วก็หยิบโกโก้ขึ้นมาดูดด้วย

 

“หนังมันทำกะจะให้คิดต่ออยู่แล้วนี่นะ”ถอนหายใจน้อยๆ “แต่อย่าไปคิดมากกับหนังพวกนี้เลย น้ำเน่า”

 

“ปากนะปาก ไอ้บอส นึกว่ามีแฟนแล้วจะตีโจทย์ความรักแตกซะอีก”มันทำปากยื่น

 

เขาทำเมิน ปล่อยให้เป็นเดดแอร์ระหว่างมันกับเขาสองคน ขณะที่จ้องมองฝูงชนเหม่อๆ ไอ้คนนั่งข้างๆยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ชิงจูบที่ปากเร็วๆท่ามกลางคนเดินพลุกพล่าน บอสทำตัวเกร็งอย่างอัตโนมัติ โชคดีที่นั่งอยู่ที่อับสายตาจึงไม่เป็นจุดสนใจมาก ตาหม่นถลึงใส่อีกคน รองเท้ามีแบรนด์ยกขึ้นเตะขาไอ้นนดังพลั่กด้วยความแรงระดับแทบตกเก้าอี้

 

มันหัวเราะ

สัส

 

“ทำเหี้ยอะไร”มือยกขึ้นถูปากจนขึ้นสี

 

“ฮึๆ อันที่จริงกะจะเข้าโรงหนังไปลวนลามมึงเพราะมันมืดดี แต่หนังแม่งดูดความสนใจมากไปหน่อย นี่เมื่อกี้อยากจูบขึ้นมาพอดีเลยจูบ”ใบหน้าคมเลื่อนระยะห่างออกมาให้อยู่ในระดับพอเหมาะ “โกรธป่ะ”

 

“…ไอ้เหี้ย”

 

“ไม่โกรธ?”

 

“หน้ากูดูชอบนะ”

 

“เวลากูจูบมึงก็เคลิ้มตาม แปลว่ามึงชอบ เอ๊ะ หรือว่าต้องแบบสอดลิ้นจ๊ะ”

 

“ถ้าจะพูดมากกว่านี้กูจะกลับบ้าน”

 

แล้วเขาก็ลืมเรื่องหนังและความรักที่แสนกินใจนั้นไปในเวลาไม่นาน

 

“มึงว่าผู้หญิงชอบอะไรเป็นของขวัญ”

 

“….ตุ๊กตามั้ง”กลอกตาไปมาใช้ความคิดราวๆ3วิ

 

“ตัวนี้น่ารักป่ะ”ยกตุ๊กตาหมีติดโบว์สีน้ำตาลขนดูนุ่มให้ดู เขาพยักหน้า

 

“เหรอ.. แต่ดูยังไม่ใช่ว่ะ”แล้วก็วางไว้ที่เดิม

 

ขอไปซีเอ็ดรอได้มั้ยนะ

 

หลังจากเสวนาเรื่องหนังกับมันไป โดนมันจูบกลางที่สาธารณะไป จู่ๆมันก็โพล่งออกมาว่า

‘กูจะซื้อของขวัญให้ปัง!’

 

อารมณ์ไหน?

‘วันเกิดปังเหรอ’เขาถาม

 

‘ป่าว กูแค่อยากให้ปัง’พูดจาเหมือนรวยนะเด็กหอ ‘ปังดูไม่สนใจกูเลยอ่ะช่วงนี้’

 

‘เห็นพวกมึงตัวติดกันจะตาย’

 

‘เออ แต่ปังไม่สนใจกูว่ะ.. กูสมผัสได้ กูเลยต้องซื้อของไปทำคะแนน!’

 

‘ของกินก็พอมั้ง’

 

‘สัส ว่าขนมปังกูเห็นแก่กินเหรอ’

 

‘เรื่องจริงนี่’

 

‘ช่าย แต่กินแล้วกอดนิ่มน่ารัก กูชอบ’

 

สุดท้ายก็ต้องมายืนช่วยมันเลือกของขวัญไปทำคะแนนกับแฟน

เอาคู่นอนตัวเอง มาช่วยเลือกของขวัญให้แฟน

ย้องแย้งเหี้ย

 

กลอกตาอีกทีนึง ตาเหลือบมองตุ๊กตาวางเรียงรายบนชั้น แล้วสะดุดตาเข้ากับตุ๊กตาหมาตัวสีขาว-ดำ อ่านที่ป้ายราคาบอกไว้ว่า ‘ตุ๊กตาสนู๊ปปี้’

 

อ้อ สนูปปี้นี่เอง ตอนเด็กแม่เคยเปิดให้ดูบ่อยๆ

 

น่ารักจังวะ วัสดุที่ใช้ทำ เนื้อผ้าก็ดี ตัวใหญ่พอเหมาะ กอดนุ่ม

 

“ชอบตัวนี้อ่อ”เหมือนจะจับๆจ้องๆนานเกินไปหน่อยจนอีกคนรู้สึกได้ เดินเข้ามาทักข้างหลังแบบไม่รู้ตัว

 

บอสพยักหน้า มือบางแตะแล้วลูบเนื้อผ้าไปมา ชวนให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยคิดว่าโตจนป่านนี้จะมีความรู้สึกอยากได้ตุ๊กตามากอด

 

“กูซื้อให้ เอามะ พร้อมกะของที่ปังนี่เลย”เสียงทุ้มโพล่งประโยคที่เหมือนไม่ผ่านการตริตรองก่อนพูดออกมา เป็นประโยคที่บ้ามากจนคิ้วกระตุก

 

“บ้าเรอะ นี่มึงไปเอาเงินมาจากไหนเนี่ย”

“ทำงานพิเศษไงจ๊า ช่วงนี้กูเก็บเงินซื้อของให้ปังรอวันครบรอบ เงินดีนะมึง นี่ก็เจียดส่วนนึงมาหาซื้อของไปให้ปังก่อน คิดว่ามีส่วนเหลือพอซื้อสนู๊ปปี้ให้มึงอยู่นา 500เอง”ถือวิสาสะหยิบสนู๊ปปี้ออกจากมือเขาและเดินดุ่มๆไปยังแคชเชียร์พร้อมกับตุ๊กตาหมีไซส์กอดพอดีมือดูราคาแพง บอสเดินตาม ยึดไหล่เขาไว้ มือยัดเงินเข้ามือไอ้นน

 

“เอาไปจ่าย ของกูกูซื้อเองได้ว้อย”มันเลิกคิ้วแปลกใจ

 

“เอ๋ ไม่เอาน่า กูเลี้ยงๆ”

 

“ไม่ต้องๆ กูอยากได้ของกู กูซื้อเอง”

 

“งั้นครึ่ง-ครึ่ง เคป่ะ”

 

ว่าจบ มือหนารับเงินอีกคนไปจ่ายเงินเรียบร้อยเสร็จสรรพ เรียกได้ว่ามัดมือชก บอสขยี้ผม กัดปากให้กับความหงุดหงิดในใจที่ขัดอะไรแม่งไม่ได้เล๊ยย

 

ไม่กี่นาที นนก็เดินกลับมา ยื่นสนู๊ปปี้ให้พร้อมเงินทอน “ทำหน้าไม่พอใจไรมึง?”

 

“นี่ก็หน้าปกติกูนี่”เขารับสนู๊ปปี้มากอด ยัดเงินทอนเข้ากระเป๋าตัง

 

“แหงล่ะ มึงไม่พอใจเป็นปกตินี่”

 

บอสมองอีกคนหัวเราะร่วน ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “นี่บ่ายเศษๆแล้ว กุกลับได้ยัง”

 

“อ้าว กะว่าจะชวนมึงไปโยนโบว์ต่อ รีบกลับเหรอ”มันทำหน้าเสียดาย

 

อะไรวะ ความรู้สึกที่ว่าถึงอยู่กับมันต่อจากนี้นานๆก็ไม่เป็นไรเนี่ย

 

“….จริงๆแล้ว อยู่ต่อก็ได้”อ้อมแขนกระชับสนู๊ปปี้ไว้

 

มันกระตุกยิ้ม “ฮั่นแน่ อยากอยู่กับน้องนนนานๆใช่ป้าาา”มือหนาเอื้อมมากุมมือเขาไว้ ตาหม่นหลุบต่ำมองอย่างแปลกใจเล็กน้อย

 

“จับมือกูเดินทำไม?”

 

“…ก็อยากจับ”

 

อยาก อีกแล้วสินะ

 

ปล่อยให้ดนตรีจากร้านรอบตัวเปิดคลอไประหว่างที่เดินไปชั้นโยนโบว์ เดินจับมือกันเงียบๆ แน่นอนว่ามีเสียงซุบซิบนินทาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร

 

ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นะ

 

ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความใคร่ มาหาเฉพาะวันที่คนที่อยู่เบื้องหน้าไม่อยู่

เหมือนกิ๊ก หรือมือที่สามอย่างที่เค้าว่าๆกัน

 

อย่าเผลอไปรู้สึกใจเต้น หรือรู้สึกดี

เพราะมันเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกาย

 

ได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆเช่นนั้น

 

อย่าได้ก้าวพลาด

เพราะนนไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย

 

ขณะคิดอะไรเพลินๆ คนที่เป็นฝ่ายกุมมือก็หยุดชะงักกึก มืออุ่นที่กุมไว้ก็ปล่อยลง

 

เขามองมันงงๆ หันหน้าไปตามสายตาของมันจับจ้อง

สายตาที่ว่างเปล่า ไม่สามารถอธิบายได้

 

ภาพที่เขาเห็นคือภาพของเธอ ขนมปังกับชายคนหนึ่ง

กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในร้านตุ๊กตา

[FIC HORMONES3]หลังม่าน (PART2)

Title:หลังม่าน

Pairing:นนบอส

Rate:Angst

Part:2

Note:เหนื่อยมากค่ะ ฮอล นอนหน้าแนบพื้น ระหว่างแต่งต้องเปิดเพลงเมโลดี้หน่วงๆบิ๊วฟีลตลอดเวลา ทำไมมันแต่งยากขนาดนี้ เป็นแค่ฟิคชู้แท้!!!! กรี๊ดดด!!!

เพราะรู้สึกว่าตัวเองแต่งฟิคได้หลุดคาร์ปกติม๊ากมาก ก็เลยต้องมานั่งทำสมาธิดีๆก่อนแต่งเลยทีเดียวค่ะ บอสจงเป็นบอส นนจงเป็นนน ไม่ใช่แรดหื่น ท่องไว้นะพุทโธธัมโม

(ปกติคือแต่งเรื่องสั้นเอาความพอใจส่วนตัวเฉยๆไง แต่นี่จู่ๆก็อยากเอาจริงเอาจัง ทำไมกันนะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕)

อย่างที่ว่านั้นแหละค่ะ กว่าจะหาเวลามาแต่งดีๆได้ก็ยากเอาการเลยค่ะ ไปอ่านกันน้า

 

หลังม่าน

ความรักคืออะไร

คิดว่าตัวเองเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วเสียอีก

 

“กูจูบมึงนะ” เสียงทุ้มดังท่ามกลางเสียงคลื่นสมุทรซัดโขดหิน ดวงตาคู่คมแววเป็นประกาย ลมหายใจเจือกลิ่นเหล้า

 

เขาเอง ก็ไม่ได้ต่างจากมันเท่าไหร่

ใบหน้าเคลื่อนเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ใกล้จนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ ใกล้จนร่างกายแทบหลอมละลายเพราะความร้อนของแต่ละคน

 

ใกล้

แล้วเราก็จูบกัน

 

เมื่อตื่นขึ้นมา ความสัมพันธ์ที่เคยมี

ก็เปลี่ยนไปตลอดกาล

 

*

.

.

 

เออ ฝันถึงเรื่องเก่าๆเหรอวะเนี่ย

ดวงตาเบิกกว้าง นอนหายใจหอบบนเตียงนอน ร่างใต้ผ้านวมหนาสั่นเล็กน้อย อกกระเพื่อมแรง รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า ถอนหายใจแล้วเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาที่แผดเสียงอยู่สักพัก ชั่วครู่ต่อมานาฬิกาอีกเครื่องในห้องน้ำก็ส่งเสียงต่อ

ก้าวเท้าลงจากเตียงหลังพับผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว มือบางทึ้งหัวด้วยอารมณ์ขุ่นมัวในใจ

 

เลิกคิดได้แล้วล่ะ เรื่องแบบนี้

ยังไงก็เปลี่ยนอดีตไม่ได้ซักหน่อย

 

ปล่อยให้น้ำเย็นๆไหลผ่านชำระร่างกาย บอสถอนหายใจหนักอีกครั้งขณะที่น้ำจากฝักบัวไหลผ่านหัว

หยาดน้ำเย็น กับร่างกายที่ร้อนผ่าว

 

เหมือนกับวันนั้น

 

สัส ก็บอกให้หยุดคิดไง

 

หลังจากที่เห็นภาพนนจูบกับขนมปัง ก็สลัดมันออกไปจากหัวไม่ได้เลย

จะอะไรนักหนากันเนี่ย ก็แค่คู่นอนจูบกับแฟนมันมั้ย

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

แล้วเก็บเรื่องมันมาคิดมากทำซากอะไร.. จนถึงกับฝันเห็นเรื่องเก่าๆ

เรื่องบ้าๆที่เป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์คู่นอนของเขากับมัน

 

.

.

“บอสเป็นหวัดเหรอ? หน้าแดงจัง”มือเล็กยกขึ้นอังหน้าผาก ออยเบิกตาโพลง “ ตัวร้อนจี๋เลย ไปทำอะไรมา”ร่างเล็กที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะไม้ตกใจจนลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว บอสสะดุ้งตกใจโหยงหลังจากถูกฉุดออกจากอาการเหม่อลอย รู้สึกอึดอัด หายใจไม่คล่องเหมือนปกติ

“ไม่รู้ดิ..”ตาหม่นดูเหม่อลอยมากในสายตาของออย ยกมือขึ้นบีบขมับตามนิสัยเวลารู้สึกเหนื่อยล้า “ปวดหัว…” คงเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอน พลิกตัวไปพลิกตัวมาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลับ แถมช่วงนี้ต้องโหมอ่านหนังสือ พอพักผ่อนไม่พอ ร่างกายเลยประท้วงสินะ

“ไปห้องพยาบาลเถอะ ช่วงเช้าอย่าเพิ่งขึ้นเรียนเลยนะ”มือเล็กเอื้อมมากุมมือเขาไว้ อีกข้างลูบหลังบางอย่างอ่อนโยน คนป่วยผงกหัวหงึกด้วยความเหม่อลอย “มาเถอะบอส เราพาไปเอง”

“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ ออย”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างยากลำบาก ในกายร้อนรุ่มเสียจนน่าหงุดหงิด กระชับมือกับอีกคนแน่น ก่อนที่หางตาจะเหลือบไปทางสนามบาส มองหาคนๆนึงที่มักจะมาเล่นบาสยามเช้าเสมอ

 

หวังจะให้มันเห็นเขาในสภาพอิดโรยนี้ทำไมนะ

 

พอเห็นสายตาคู่หนึ่งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีมองมาทางเขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกก็พาลทำให้ร่างกายเบาโหวงไปชั่วขณะ

 

เพราะฤทธิ์ไข้เหรอ

 

ในหัวฉายภาพนนกับขนมปังขึ้นอีกครั้ง

 

ทั้งที่ออยยืนอยู่ข้างๆเขาแท้ๆ

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า.. ถ้าคนที่กำลังประคองตัวเขาไปยังห้องพยาบาลนี้เป็นมัน

 

จะทำให้หัวใจพองโตขนาดไหนเชียว

 

 

*

.

.

เสียงลมหายใจดังขึ้นเป็นจังหวะ บ่งบอกว่าคนตรงหน้ากำลังหลับสนิท

ใบหน้าไร้แว่นดูสงบนิ่งอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติชอบขมวดคิ้วเป็นโบเลยนี่นะ พอเห็นสีหน้าผ่อนคลายก็ทำให้รู้สึกแปลกไม่หยอก ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปวางทับที่หน้าผากของคนป่วยบนเตียง โหย ร้อนจี๋

ตาเหลือบมองขวดน้ำในมือก่อนจะเอาไปวางแนบแก้มเนียนนุ่มของอีกคน เสียงร้องอืออึงดังออกมาจากลำคอ ขยับใบหน้าหาความเย็นจากขวดน้ำที่มือหนา

ขยับตัวซุกกับหมอน ขดตัวกับผ้าห่ม จากที่นอนอยู่เฉยๆเมื่อครู่ ตอนนี้กลับดู.. ผ่อนคลาย?

คนอะไรวะ ตอนนอนยังแผ่ออร่าความบอสออกมาได้อีก

ปล่อยมือและขวดน้ำออกมาจากแก้ม เดินไปทำผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินเอามาวางปุไว้บนเหม่งของคนป่วย ละตัวออกจากเตียงคนไข้มานั่งอยู่เงียบๆที่ที่นั่งตรงข้ามเตียง ในหัวลองนึกเดาสาเหตุของอาการป่วยเล่นไปพลางระหว่างรอร่างผอมๆฟื้นขึ้นมาจากพิษไข้

หลายวันก่อนยังโอเคอยู่เลยนี่หว่า

แบบว่า ก็ร้อนแรง

 

ตบหน้าตัวเล็กดังเพียะเมื่อนึกถึงเรื่องหื่นกาม

 

บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงอยากทำเรื่องอย่างว่ากับมันขนาดนี้

ถึงขนาดยอมโกหกขนมปัง ผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในโลกของเขา

จะว่าความรักเหรอ คงไม่ใช่

 

มันก็แค่ ทำแล้วรู้สึกดี

และบอสเอง มันก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย

 

มือที่โอบกอดมันไม่ได้มีความหมายลึกซึ้ง

ปากที่จูบไปก็แค่เพราะว่ามันนุ่ม หวาน

ชอบนอนกอดแล้วดมผมฟูของมัน เพราะว่าหอม

ที่ดึงมาทำอะไรบ่อยๆตามที่ใจต้องการ เพราะร่างกายต้องการ

เหมือนเสพติดตัวมันไปแล้วยังไงไม่รู้ว่ะ

 

เสพติด จนพอเห็นมันทำท่าทางอ่อนแอก็ต้องเร่งรีบลาอาจารย์มาดูแล

แค่คิดว่าจะให้คนอื่นมามองใบหน้าในตอนนี้ของมัน ใจก็ขุ่นไปหมด

 

ฉุดตัวออกมาไม่ได้แล้วจริงๆสินะกู

 

 

.

.

อธิบายทีว่าตอนหลับไปมันเกิดอะไรขึ้น

ตื่นมาอีกทีก็เที่ยงแล้ว อาการปวดหัวหายไป จะมีก็แต่อาการสับสนเล็กๆน้อยๆนี่ล่ะ

 

“อ้าวมึง ตื่นแล้วเหรอ”ไอ้นนที่นั่งกินผัดซีอิ๊วข้างเตียงคนป่วยทำตาโตขณะกำลังตักคำโตเข้าปาก มือวางข้าวกล่องไว้แล้วเดินมาเปิดน้ำให้ดื่ม รับมาแล้วดื่มจากหลอดทั้งที่นอนบนเตียงด้วยอาการกระหาย “อาการเป็นไงบอกหมอซิ” ดูทำหน้าทะเล้นซะ

“คอแห้ง.. เป็นผงเลย”ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ถอนหายใจพรืด “แล้วนี่มึง?”

“มาเฝ้าไง ตั้งแต่เช้านู่น โคตรนาน”มือหนารับขวดน้ำมาจากคนป่วย มองนิดๆก่อนจะดูดน้ำต่อ “ว้าย จูบทางอ้อม”

ตาหม่นหรี่ลง คิ้วหนาขมวดเป็นปมอีกครั้ง “เล่นอะไร ติดหวัดไม่รู้ด้วยนะ” มันยังคงดูดน้ำต่อ เล่นอะไรอย่างที่ว่าน่ะแหละ จูบกันแล้วไม่รู้กี่รอบ

“ก็อยากจูบมึง ไม่รู้มึงจะยอมมั้ยนี่นา เลยขอจุ๊บทางอ้อมไปก่อน”ว่าแล้วก็ส่งจูบลอยใส่อีกคนที่นอนบนเตียง ทิ้งตัวลงนั่งจ้วงผัดซีอิ๊วต่อ ขณะเคี้ยวแก้มตุ่ยก็ยื่นอะไรสักอย่างให้เขา บอสขยี้ตามองเล็กน้อยเพราะมองไม่ชัดด้วยสายตาที่ไร้แว่น

น้ำเต้าหู้…

เขายันตัวออกจากหมอนมานั่งบนเตียง มือกระชับผ้าห่ม อีกข้างเอื้อมไปรับถุงน้ำเต้าหู้มา พยายามเจาะด้วยหลอดพลาสติกอยู่2-3ครั้ง นนเลิกคิ้วมองก่อนจะดึงมาเจาะถุงให้ด้วยความรู้สึกเอ็นดูเล็กๆ

“ป่วยแล้วทำอะไรเอ๋อๆนะมึงง่ะ”

“อะไรของมึง ก็มันเจาะยากมั้ย”ปากบางงับหลอดแล้วดูดเงียบๆ มองคนตรงกันข้ามที่จ้วงกินข้างเที่ยงไม่หยุด ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงนาฬิกาเดินทำให้เกิดเดดแอร์ระหว่างคนสองคน คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยแสดงถึงความไม่พอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่อีกคนก็ตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป

มาเพื่อเอาน้ำเต้าหู้ให้กู.. แค่เนี้ย?

“นี่มึ”

โคร่กกกก

เสียงท้องร้องดังขึ้นในความเงียบในขณะที่เขากำลังเริ่มบทสนทนา นนมองมาที่เขาแล้วปิดปากขำ เพราะมีผักซีอิ๊วเต็มปาก ส่วนบอสก็ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม แก้มใสมีสีแดงเล็กน้อย โอย กระเพาะเชี่ย

ยัง ไอ้สัส ยังไม่หยุดขำอีก ตาหม่นหรี่มองคนที่ขำจนตัวงอเหมือนกุ้งในผัดซีอิ๊ว “ตลกมากนักรึไง”

“เอออ มากกกกก”มันปาดน้ำตา “โอย ทรมานนนน”

หัวเราะตายไปเหอะ

 

ครืดดดด

 

“อ้าวบอส ตื่นแล้วเหรอ อ้าว..นน?”เสียงแหบเอ่ยเบาๆเผื่อคนนอนซมยังไม่ตื่น ก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นคนไข้ตื่นนอนแล้วเรียบร้อยกำลังนั่งคุย(?)กับคู่กรณีเก่าที่ตอนนี้เลื่อนยศมาเป็นเพื่อนสนิท(??)

“ไงออย เอาข้าวมาให้บอสเหรอ”ออยพยักหน้า “ดีแล้ว.. บอสมันหิว มากกกกกกกก”ว่าแล้วยื่นมือมาสั่นคางด้วยความเอ้นดู มือบางปัดไปอย่างรำคาญ

ออยหัวเราะคิก “ก็.. ซื้อน้ำเต้าหู้กับขนมปังไส้ใบเตยมาให้น่ะ พอดีไม่มีข้าวต้มขาย”ว่าไปพลางแกะซองขนมปังไปพลาง มองที่นั่งอย่างลังเลแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงคนป่วย นนเลิกคิ้วแปลกใจเล็กๆ “เอ้า”

บอสรับมากัดเป็นคำเล็กๆช้าๆ ออยเหลือบมองถุงน้ำเต้าหู้อีกถุงข้างตัวร่างผอม “นนซื้อมาให้บอสเหรอ?”

“อือฮึ ห้องเราเลิกเร็วกว่าห้องออยอ่ะ ตอนกินข้าวก็นึกขึ้นได้ว่าบอสมันนอนป่วยอยู่นี่เลยซื้ออะไรมาเยี่ยม”

บอสรู้สึกหัวใจกำลังเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ

“อ้าว เมื่อกี้เราเพิ่งเห็นเฟิสต์เดินสวนไปกินข้าวที่โรงอาหาร นึกว่าเพิ่งเลิกซะอีก”

“มันทำงานไม่เสร็จต่างหากเล่า เลยโดนอาจารย์กักตัว” เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ

ออยเหลือบมองบอสที่กินขนมปังเงียบๆไม่พูดไม่จาครู่เดียว ก่อนจะเอ่ย

“เฟิสต์ยังเหมือนเดิมเลยเนอะ”

“มันก็บ้าบอน้อยลงหน่อยตั้งแต่ขึ้นม.6นะ แต่โดยรวมก็เหมือนเดิมนะ”พูดพลางนึกถึงเพื่อนสนิทตาหยีไปพลาง “พูดถึงแบบนี้ระวังบอสหึงน้า”

คนถูกกล่าวถึงสำลักขนมปังจนต้องดูดน้ำเต้าหู้ตาม “หึงอะไรกัน”

“ไม่หึงจริงดิ จริงดิ?”อดีตประธานทำท่าล้อเลียนอย่างน่าหมั่นไส้จนทำเขาทนไม่ไหว ปาถุงน้ำเต้าหู้ที่หมดแล้วใส่อย่างแรง เชิดหน้าใส่เป็นนัยว่า เอาไปทิ้ง นนเกาหัวแกรกๆแต่ก็หยิบขยะเดินไปทิ้งแต่โดยดี

 

“ไม่หึงหน่อยเหรอ”จู่ๆออยก็พูดออกมาในความเงียบ

“หา?”เป็นประโยคที่ฟังดูแปลกหูมากจนต้องร้องตกใจออกมา ออยลอบมองเขาแล้วหัวเราะแห้ง

“ก็….. ไม่หึงเราหน่อยเหรอ?”มือเล็กยกขึ้นเกาหัวแกรกแก้เก้อ บอสกระชับผ้าห่ม ปากอิ่มเผยอเล็กน้อย ยังคงตกใจไม่หาย ก่อนจะสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อเรียกสติเรียบเรียงคำตอบ

เฟิสต์กับออยน่ะเหรอ..

“ไม่ล่ะ”เอ่ยเสียงราบเรียบ มือเอื้อมไปลูบผมยาวสวยที่ถูกมัดรวบไว้ “สระผมแล้วเหรอ”

เด็กสาวหลุดหัวเราะน้อยๆ “อื้ม” มือเล็กเลื่อนไปวางทับมืออีกคนที่ลูบหัวตนอยู่ก่อนจะเลื่อนมาวางที่แก้มตัวเอง “อธิบายหน่อยสิ ทำไมไม่หึงล่ะ”

ทำไมน่ะเหรอ

“เคยรัก ก็คือเคย”เขารู้สึกว่าตัวเองกระตุกยิ้มจาง “ใช่มั้ยล่ะ”

เคลื่อนตัวเข้าไปหาอีกคน กดจูบลงบนเส้นผมดำขลับ เขาได้ยินเสียงออยหัวเราะคิก แขนบางเอื้อมมากอดตัวอีกคนแน่น

“อื้ม”หน้าเธอซุกอยู่ที่ไหล่ผอม “ตัวบอสอุ่นจัง”

“ก็เป็นหวัดนี่นา..”แขนผอมตวัดกอดกลับอย่างเก้ๆกังๆ

นี่เป็นสิ่งที่แฟนปกติเค้าทำกันใช่มั้ยนะ

พูดจาหยอดคำหวาน กอด จูบ ลูบหัว

 

อ้อมกอดของออยไม่เหมือนอ้อมกอดของไอ้นน คงเพราะขนาดตัวที่ต่างกัน

ถูกออยกอด ให้ความรู้สึกไม่เหมือนตอนที่ไอ้นนกอด

ต่อให้แขนเล็กๆนี้กอดแน่นขนาดไหนก็ไม่ทำให้อบอุ่นใจเท่าตอนถูกร่างหนานั้นทาบทับลงมา

เขาจึงต้องกอดออยกลับ

เพราะขนาดตัวที่ต่างกันใช่มั้ย

หรือเพราะอย่างอื่นกันนะ

 

 

*

.

.

“อ้าวนน นี่ไปไหนมาน่ะ”

“ที่ร้ากกก”ร่างหนาโผเข้ากอดเด็กสาวตัวนิ่มเต็มรัก เธอหัวเราะคิกคักกับสัมผัสจั๊กจี้แล้วดันคนแรงควายออก “ทำไมเพิ่งลงมากินข้าวล่ะ จะหมดพักล่ะน้า”

“มัวแต่ทำงานเพลินน่ะ ปวดท้องไปหมดแล้วว”วางจานลงบนโต๊ะ “แล้วนนล่ะ ทำไมเพิ่งมากินข้าว”

“อ้อ กินมาก่อนแล้วล่ะ นี่เค้ากำลังจะขึ้นห้องแต่เห็นตัวเองก่อนเลยเข้ามาอ้อน”กระพริบตาใส่ปิ๊งๆๆ เรียกเสียงหัวเราะได้ตามเคย คนรอบข้างมองคู่รักอารมณ์ดีด้วยสายตาอิจฉาปนเอ็นดู “ปวดท้องมากป่าว กินเยอะๆนะหมูน้อย”

“ไอ้นน อยากโดนเอาส้อมจิ้มตามั้ย”ว่าแล้วทำท่าขู่ นนทำท่ากลัวเล่นไปกับอีกคน “ไม่รีบขึ้นห้องแล้วเหรอ?”

“ไม่แล้วล่ะ”นั่งเท้าคางยิ้มๆ

“ตอนนี้เค้าอยากอ้อนตัวเองที่สุดเล้ย”

[FIC HORMONES3]หลังม่าน (PART1)

Title:หลังม่าน

Pairing:นนบอส

Rate:Angst self-hated

Part: 1

Note:สวัสดีค่า แผนเองค่ะ หายหน้าหายตาไปนาน อาจช้าไปนิดแต่ก็สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน :”D 

ฟิคนี้เกิดจากการพิมเพิ่มในกูเกิ้ลดอคทีละนิดๆในแต่ละวันค่ะ ก็มีอารมณ์โดดๆบ้างแต่คงไม่มากม้าง… //เกาหัวแกร่กๆ

ก็.. ถ้าพูดไรมากก็สปอยล์เนาะ ไปอ่านเถอะค่ะ ขอให้สนุกน้า

ปล. อีกนิดนึง แผนชอบเพลงนี้ เปิดไปแต่งไปมันเข้ากันดี https://www.youtube.com/watch?v=E08p-Za-mK0

หลังม่าน

ความสัมพันธ์เน่าๆนี่มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนกันนะ


นิ้วหนาแทรกเข้ามาในง่ามนิ้ว ริมฝีปากคลอเคลียอยู่ทั่วใบหน้า เสียงกริ่งหมดพักเที่ยงดังเข้ามาในโสตประสาท ร่างหนายกตัวอีกคนขึ้นนั่งบนตักแล้วปลดเข็มขัดออกอย่างช่ำชอง

ตาสีหม่นตวัดมองคนที่จู่ๆก็ดึงเข้ามาทำเรื่องอย่างว่าในเวลากลางวันแสกๆ

เหมือนคนที่กำลังง่วนอยู่กับการแกะเสื้อผ้าอีกคนจะรู้สึกถึงสายตาแข็งกร้าวที่ส่งมา ใบหน้าหล่อยกยิ้มเหมือนทุกครั้งที่ส่งยิ้มให้สาวๆในโรงเรียนเพื่อเรียกคะแนนเสียง

รอยยิ้มที่เขาเกลียด

“อยากทำแบบนี้ในโรงเรียนมานานละเนอะ”

เนอะ ควยไรล่ะ





‘มาเจอกันหน่อยดิ’

มองข้อความด้วยสีหน้านิ่งๆ นิ้วเคลื่อนไปกดลบข้อความ ขาก้าวไปหาจุดนับพบเหมือนทุกครั้ง

เหมือนทุกครั้ง


ขาก้าวเข้าห้องเก็บของเก่า หันมองไปยังทางฟูกที่ไม่ใช้แล้ววางทับกัน พบกับคนที่เรียกมากำลังนอนอย่างสบายใจ

“ม.6แล้วมาทำแบบนี้มันจะดีเหรอ”เอื้อมมือไปตบหัวเต็มแรงจนอีกคนสะดุ้งตื่น หันมามองคนที่ตัวเองเรียกมาตาแป๋ว

“มาทำแบบนี้ คือมาทำอะไรเหรอ?”มันยิ้มกริ่ม ฉวยโอกาสจูบปากบางของอีกคนเร็วๆ

“ขนมปังเป็นอะไรไปล่ะ”เคลื่อนตัวไปนั่งบนฟูกบ้าง แต่ก็โดนผลักลงไปนอนอย่างรวดเร็ว

“ยุ่งเรื่องสอบเข้าน่ะ พวกโควต้า”มือแกะกระดุมออกเร็วๆ จมูกซุกไซร้ดมกลิ่นสบู่

กูเองก็ติวสอบเหมือนกัน แต่ต้องออกมาเพราะมึงดันมีอารมณ์อยากทำไม่ดูเวลา

“แล้วออยอ่ะ”มือบางเริ่มขยุ้มเส้นผมดำหนาผิดกฎระเบียบเมื่อปากหนาเริ่มไล่จูบต่ำลงเรื่อยๆ

“ติวสอบ”

“แปลว่าที่เรียกมาไม่มีใครสงสัยใช่ป่ะ”

“ก็คงงั้น”

มือจับต้นขาวางไว้บนไหล่แกร่ง เลียปากอย่างทะเล้น

 

“มึงก็ติวสอบเหมือนกันใช่ป่ะ กูเรียกออกมาจะเป็นไรมั้ยเนี่ย”พูดแล้วกดจูบลงต้นขาด้านใน บอสส่งเสียงอืออืมในคอเล็กน้อย

 

“เดี๋ยวกูไปอ่านเตรียมสอบที่บ้านเอาก็ได้”คนตรงหน้ายักคิ้วแปลกใจ

 

“อยากทำขนาดนั้นเชียว?”นนมองตาแป๋ว จับมืออีกคนมาวางที่เสื้อตัวเอง “ถอดให้หน่อย”

 

บอสมุ่ยหน้า หายใจหอบก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย “แค่เบื่อๆ”

 

ร่างหนาผิวปาก ผลักร่างอีกคนลงนอนบนฟูกอีกครั้งเมื่อเสื้อถูกถอดออกแล้ว บอสตกใจเล็กน้อย เลื่อนมือไปจัดการกับเข็มขัดต่อแต่มือหนาของอีกคนกลับจัดการเองเสียก่อน

 

“พี่บอสขอมาขนาดนี้ น้องนนจะจัดให้ รับรองว่าถูกใจแน่นอน”

 

ขอตอนไหนวะ บอสรู้สึกว่าคิ้วกระตุก แต่ก็เลิกคิดทุกอย่างเมื่ออีกคนเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามา

 

ปล่อยให้หัวว่างเปล่า

 

.

.

.

ผมเคยคิดหาเหตุผลที่ตัวเองมีความสัมพันธ์ที่น่าขยะแขยงนี้กับมัน

 

เพราะถึงจะถูกทำเท่าไหร่ก็ไม่ท้องเหรอ

เพราะไม่ได้เป็นคนอื่นคนไกล ไม่ต้องลำบากซื้อคน

มีเซ็กส์.. โดยที่ต่างฝ่ายต่างยินยอมมอบให้กันงั้นเหรอ

 

แม้จะไม่ได้รักกันก็ตามแต่

 

“บอส กินข้าวกัน”ออยเดินมาชวนไปกินข้าวเหมือนทุกวัน ผมมองหน้าเธอโดยไร้ความรู้สึกผิดในใจแม้แต่น้อย

 

“อืม ไปกัน”ยันตัวขึ้นแล้วเดินไปกับเธอ “ติวสอบหนักเหรอ”มือเอื้อมไปจัดผมยุ่งๆให้เธอ อืม ผมมันเหมือนทุกครั้งเลยนะ “สระผมอย่างน้อย2วันครั้งสิ”

 

เธอหัวเราะ “อื้ม ต้องอ่านอะไรไม่รู้เยอะแยะ ทำชีทอีก ตอนเย็นก็ต้องไปติว ไม่มีเวลาสระผมเลย~”เสียงแหบ ใต้ขอบตาคล้ำ ชวนให้อยากซื้อครีมบำรุงในเซเว่นให้จริงๆ

 

“บอสล่ะ? เมื่อวานก็ติวซะเย็นเลยใช่ม้า ตอนเราเลิกเรียนจะไปกวดวิชาต่อยังเห็นจักรยานจอดอยู่เลย”

 

เมื่อวาน

 

“อืม ก็พอสมควร”

 

.

.

“ช่วงนี้บอสสนิทกับนนดีเนอะ”รู้สึกดื่มน้ำผิดจังหวะขึ้นมา

 

“อะไรทำให้คิดอย่างนั้นล่ะ”ออยที่นั่งอยู่ตรงข้ามยิ้มให้น้อยๆ

 

“ก็ เฟิสต์มาเล่าให้ฟังน่ะ”ว่าแล้วก็โบกมือให้กลุ่มไอ้นนที่นั่งอยู่อีกสองสามโต๊ะ “บอกว่าช่วงนี้ถ้านนไม่ไปอยู่กับขนมปัง ก็วิ่งมาที่ห้องเรียนบอสน่ะ บอสช่วยติวให้นนเหรอ”

 

ผงกหัวไปเล็กน้อย “มันยังติด ร คณิตศาสตร์อยู่น่ะนะ”

 

อ่า.. หัดโกหกเนียนขนาดนี้มาจากไหนนะ

 

“แต่ก็ไม่ชอบให้มาเท่าไหร่หรอก น่ารำคาญจะตาย”

 

“ว่าใครน่ารำคาญอ่ะบอสส น้อยใจนะเนี่ยย”เคลื่อนตัวมาหาอย่างรวดเร็ว กอดคออย่างสนิทสนม ออยโบกมือให้น้อยๆ “ไงออย”

 

“สวัสดีนน ขอบใจที่ดูแลบอสให้นะ”นนหัวเราะอารมณ์ดี

 

“ออยนี่เป็นแฟนที่เทคแคร์กันดีจังเนอะ อิจฉาบอสอ่า”

 

“ขนมปังไม่ดีตรงไหนล่ะ”บอสดูดกาแฟแล้วถามเซ็งๆ

 

“แต่ขนมปังน่ะ ดีที่สุดในโลกแล้ว~”

 

ออยยิ้ม “เย็นนี้เราก็ไปกวดวิชานะบอส”ใช้ส้อมเขี่ยข้าวไปมา “อยากไปเที่ยวด้วยกันจัง..”

 

“วันเสาร์ได้นะ เราก็อยากไป”

 

“อื้ม!”เธอตอบรับเสียงใส มือมองเวลาในโทรศัพท์ก่อนจะตกใจ “เราไปก่อนนะบอส จำได้ว่าต้องเปลี่ยนห้องเรียนน่ะ”

 

“เดี๋ยวเราเก็บจานให้ ไปเหอะ”

 

“อื้อ”มือบางโบกไปมา ผมที่รวบมัดสะบัดตามการเคลื่อนไหว “เจอกันนะ”

 

“เจอกัน”

 

นนเหลือบมองบอสตลอดเวลาที่คู่รักสองคนคุยกัน บอสเหลือกตามอง

 

“มีอะไร”

 

“เดินไหวด้วย?”

 

“เออ”

 

“กุว่ากุเก็บจานให้ดีกว่า”ไม่ว่าเปล่า มือรวบเอาจานบนโต๊ะไปถือ อีกข้างตบเข้าที่ข้างสะโพกของบอสดังเพียะ

 

จุก

 

มือคว้าจับโต๊ะแทบไม่ทัน ปากขยับด่าแบบไม่ออกเสียง

 

ไอ้เหี้ย

 

“ประคบมาก็เท่านั้น~”ทำท่าลอยหน้าลอยตาแล้วเดินเอาจานไปเก็บ ก่อนจะเดินไปกับกลุ่มเพื่อนแบบโคตรลัลล้า

 

แนบเนียนจริงๆ ไม่มีใครตะหงิดใจอะไรแม้แต่น้อยจนน่าหงุดหงิด

 

ช่างน่า.. หงุดหงิดใจจริงๆ

 

.

.

รู้สึกมีบางอย่างกำลังมา

 

หูเงี่ยฟังเสียงวิ่งที่ใกล้เข้ามาที่ห้อง เสียงจ๊อกแจ๊กรอบตัวไม่ทำให้เสียงนั้นกลืนหายไป ใกล้.. ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

.

.

เสียงลงเท้าเป็นจังหวะที่คุ้นหูนี้

 

กึง!

 

“บอสสสส!!”เสียงทุ้มร้องตะโกนเหมือนทุกวันจนเป็นภาพคุ้นตาของคนในห้อง แต่วันนี้คนที่ตามหาดันไม่อยู่ที่ๆควรอยู่เหมือนทุกวัน

 

“อ้าวนน มาหาบอสเหรอวะ”

 

“เออดิ บอสไปไหนอ่ะ”

 

“ก็อยู่… อ่าว ไม่อยู่แล้วแฮะ ปกติก็จะอยู่ที่โต๊ะ สงสัยวันนี้กลับเร็ว”เพื่อนร่วมห้องที่ดูไม่ค่อยสนิทกันเกาหัวแกร่กๆ เก็บของเข้ากระเป๋าแล้วเดินออกไป “ได้เวลาไปติวละ มึงก็ใส่ใจเรื่องสอบเข้ามั่งล่ะ”

 

นนหัวเราะแล้วโบกมือให้มั่ง คนในห้องที่เหลือทักทายกันเล็กน้อยแล้วทะยอยออกไปทีละคนสองคน จนเหลือเพียงเขา กับกระเป๋าเป้ที่โต๊ะของคนที่ตามหา

 

มองสอดส่องไปทั่วห้อง สายตาหยุดอยู่ที่หน้าต่าง ไล่สายตามายังผ้าม่าน ต่ำลงมา ลงมา

 

หลบซะมิดเชียว

 

ร่างหนาสาวเท้าไปช้าๆ เบาๆเข้าไปใกล้ผ้าม่านสีน้ำเงินเข้ม ก่อนจะกอดเข้าหมับ

 

“!!”

 

สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าห่มสะดุ้งจนตัวโยน นนหัวเราะให้กับท่าทางนั้น

 

“หลบซะกูไม่รู้เล้ย ตีนเล็กๆของใครก็ไม่รู้”หัวทุยซุกคนที่อยู่ใต้ผ้าม่าน ร่างผอมสะบัดตัวไปมาอย่างฉุนเฉียว แต่ตัวแห้งๆจะมาสู้เพื่อนนักกีฬาได้ยังไง ในที่สุด บอสก็หยุด ในห้องมีเพียงเสียงหอบหายใจเหนื่อยของเขาเท่านั้น

 

“หลบกูทำไมเนี่ย”

 

“รำคาญ”

 

“พูดดีๆนะ–”

 

เสียงทุ้มเงียบลงเมื่อได้ยินเสียงคนเดินตรงมายังห้องเรียน คนในผ้าม่านเองก็ได้ยิน สะบัดตัวเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนผละออกไป

 

นนละตัวออกมา นั่นทำให้บอสใจชื้นขึ้น

 

แต่วินาทีถัดมา มันก็ดันเข้ามาอยู่ในผ้าม่านกับเขาเสียเอง

 

ทำเหี้ยอะไร!?

 

ส่งสายตาหลุกหลิกไปเหมือนจะบอกอย่างนั้น นนที่เห็นอีกคนทำท่าตกใจสุดขีดก็หลุดขำพรืดออกมา มือคว้าเอวอีกคนมาจับไว้แล้วดันหาตัวเอง มือล๊อคแขนข้างนึงไว้ติดผนัง ริมฝีปากแนบทับลงไปบดเบียดปากบางอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

ทุกอย่างแม่ง.. เกิดขึ้นเร็วมาก

 

“บอส กลับรึยัง?”เสียงที่คุ้นเคยดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท

 

เสียงออย

 

ปากหนาละออกและกดจูบลงไปอีกรอบ ไม่เว้นว่างให้เสียงหลุดรอดออกมา สัมผัสได้ถึงน้ำลายที่เลอะขอบปาก ใบหน้าร้อนฉ่า ในหัวตื้อตึง

 

“กระเป๋าก็ยังอยู่นี่นา”เสียงหยุดอยู่ที่โต๊ะของเขา ที่มีเป้วางอยู่

 

“วันนี้ยกเลิกคาบติว กะว่าจะชวนไปกินไอติมสักหน่อย…”บ่นพึมพำกับตัวเองน้อยๆ

 

ลิ้นร้อนยังคงรุกเข้ามาอย่างไม่ลดละ บอสรู้สึกได้ว่ากำลังจะขาดสติ เหนื่อย หายใจไม่ทัน ร้อน อึดอัด รู้สึกขาอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

นนเห็นดังนั้นก็จะหยุดการจูบมาราธอนของมัน ซึ่งนั้นก็ดี

 

แต่ดันกลายเป็นตัวเขาเอง ที่เริ่มจูบมันต่อ

 

เสียงของออยดังวนในหัว ข้างนอก แฟนของเขาอยู่ตรงนั้น หลังผ้าม่าน

 

เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังม่านสีน้ำเงินเข้มนี้ แฟนของเธอกำลังทำอะไรอยู่

 

คนที่เธอเชื่อใจมากที่สุดกำลังทำบ้าอะไรของมันอยู่

 

แต่ถึงอย่างนั้น มือที่ถูกรั้งไว้ก็ถูกปล่อย แขนทั้งสองข้างโอบรอบคอของอีกคน ปล่อยให้มือของนนทำตามสิ่งที่เจ้าของมันต้องการ

 

.

.

.

“คิดว่ากูกับมึงใครเลวกว่ากัน”

 

ปากที่กำลังเล็มไอติมไมโลหยุดชะงัก มองคนที่นั่งตรงข้ามโต๊ะม้าหินอ่อนด้วยสายตางุนงง

 

“จะเลวยังไงล่ะ กูกับมึงก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนิ”

 

แค่มีเซ็กส์กันเอง

 

เออ จะว่าถูกก็ถูกของมัน

 

“ไม่มีความรู้สึกดีอะไรมอบให้แก่กัน ใช่มะ?”นนยิ้ม ทิ้งไม้ไอติมไป นิ้วเกลี่ยคราบไอติมรสกาแฟที่ข้างปากของอีกคนออกให้

 

“รักออยใช่มะ?”

 

“อืม”

 

บอสจับมือหนาออก หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้คนตรงหน้า

 

“รัก”

 

*

.

.

“พี่นนพี่ขนมปังน่ารักจังเนอะแก~”

“มากๆอ้ะ เคมีเข้ากันที่สุดดด”

“ดูดิ ร้องเพลงคู่กันด้วย”

“พี่นนดูหงิมๆเชื่อฟังคำสั่งพี่ขนมปังจัง น่ารักกก”

 

“ขนมปังยังเป็นที่รักของน้องๆเหมือนเคยเลยเนอะ”ออยพูดขึ้นท่ามกลางเสียงคอนเสิร์ตและเสียงจอแจ บอสเหลือบมองเธอก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือเล็กไว้ คนตัวเล็กกระชับมือให้แน่นกว่าเดิมสายตาจ้องมองไปที่วงซีสเคปและคู่รักบนเวที

 

“ยังเกลียดอยู่มั้ย”

 

เธอสั่นหัว

 

“ไม่แล้วล่ะ”

 

เสียงเพลงจบลง ทุกคนปรบมือและส่งเสียงกรี๊ดให้กับเพลงคู่ของคู่ป๊อปนนขนมปัง

 

นนยังรักขนมปังอยู่มั้ยนะ

 

ก็ต้องรักอยู่แล้ว

 

ความสัมพันธ์ของเขากับมัน ก็แค่ความสัมพันธ์ทางกาย

 

มันคือความสัมพันธ์แบบนี้

 

และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป

 

.

.

 

.

.

 

‘คิดถึงอ้ะ’

 

อือ.. กดลบดีกว่า

 

คิดแล้วก็กดลบข้อความไปทันทีก่อนที่จะขึ้นอ่าน เอาหน้าแนบโต๊ะ ไถไปมาเหมือนทำท่าคิดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ

 

‘มาเจอที่ห้องได้ป่ะ’

 

แบบนี้โอเคกว่าเยอะ

 

‘ไม่’

 

อ๋า

 

‘อ๋า’

 

‘จะอ่านหนังสือสอบ’

 

อยากเจอนินา คิดถึง

 

นิ้วที่กำลังจะพิมก็ชะงักไป

 

ไม่ดีๆ

 

‘วันไหนว่างอ่ะ’

 

‘ช่วงนี้ช่วยอย่าชวนมาทำเรื่องพวกนี้จะได้ไหม’

‘กูต้องอ่านหนังสือ’

‘เอาเวลานี้ไปอยู่กับขนมปังไป’

 

อ๋าาา

 

นนเบ้ปาก ทวนอ่านข้อความซ้ำไปมา

 

‘ก็ด้าย’

 

จบ บทสนทนา

 

คิดถึงจังว่ะ..

 

..กุไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดคำนี้ออกไปได้นี่หว่า

 

“เป็นอะไรของมึงวะนน กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่นานละ”ซันถามขึ้น ละสายตาจากการตั้งสายกีต้าร์ “คิดถึงปังเหรอไอ้คนติดเมีย”

 

“อือออออออ เตรียมสอบอะไรนักหนา กุก็เหงานะๆๆๆ”ว่าพลางทุบโต๊ะเดี่ยวในห้องซ้อมปึงๆปังๆ ซันมองแล้วถอนหายใจแบบขำๆ

 

“ไม่อ่านหนังสือสอบมั่งล่ะมึงน่ะ แกทแพทก็ใกล้แล้ว 9วิชาสามัญอีก อื้อเลยมึง”

 

“คนที่ขัดกีต้าร์อยู่แบบมึงไม่มีหน้ามาไล่กุไปอ่านหนังสือ”

 

“สัส กุรอติวอังกฤษกับเจนไง”ยกยิ้มอย่างมีชัย “ปังไม่มีแบบ ไปอ่านหนังสือกับมึงในร้านน่ารักๆอะไรพวกนี้มั่งเหรอวะ”

 

“ไม่อ่ะ ถ้ากุไม่ชวนก็ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันมาก..”ขยับตัวบิดขี้เกียจ อา หนังสือสอบๆ ต้องอ่านหนังสือสอบ แค่คิดก็ง่วงแย่แล้ว

 

จะว่าไป ก็มีอยู่นี่หว่า

คนที่ช่วยติวสอบให้ได้

 

“ไอ้บอสล่ะ?”

 

อ่านใจกุได้เหรอเนี่ย~

 

“เออ ให้มันช่วยติวหนังสือดีก่า”ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋ามาถือ “ซ้อมคอนหลังสอบแกทใช่ป้ะ”

 

“เออ ช่วงนี้ก็ต้องสู้เพื่ออนาคตกันไปก่อน”ซันวางกีต้าร์ไว้ข้างตัวก่อนจะหยิบหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนาข้างๆตัวมาคลี่ดู

 

“งั้นก็เจอกัน สู้ๆนะเว้ย”ชูกำปั้นให้

 

“มึงก็ด้วย”ชูกำปั้นใส่กันแมนๆ

 

ก้าวเท้าออกมาจากห้องซ้อม เย็นแล้ว มืดเร็วสมกับฤดูหนาว นิ้วกดข้อความโทรศัพท์อย่างรวดเร็วแล้วกดส่งออกไป

 

‘จะไปหานะ’

 

.

.

นนกำลังจูบกับขนมปัง

 

ห้องสภาเลยเหรอวะ แม่ง

 

รู้ตัวอีกทีก็ต้องหลบหลังผนังอย่างช่วยไม่ได้ พวกมันไม่เห็นสักหน่อย ทำไปทำไมวะ

 

พอขึ้นม.6 การจูบ หรือมีเซ็กส์ก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอายของผู้ชายวัยนี้สักเท่าไหร่ สังเกตจากไอ้นน

 

ตอนอยู่ม.5แม่งเขินขนมปังจะตาย พอขึ้นม.6เท่านั้นแหละ แตกเนื้อหนุ่ม? ความใคร่ที่มีก็เพิ่มมากขึ้น แต่ขนมปังก็เป็นเด็กดีพอที่จะไม่มีอะไรกับมันจนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร สุดท้ายแล้ว

 

ก็กุไง คู่นอนของมัน

 

ถอนหายใจพรืด เดินออกจากที่หลบแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องสภา สองร่างผละออกจากกัน ขนมปังหน้าแดงแจ๋ ตีแขนนนดังเพียะๆๆ

 

“บ บอส เห็นรึเปล่า?”เสียงแหลมตะกุกตะกัก นนยืนปิดหน้าอยู่ใกล้ๆ

 

เขิน?

 

“อืม คราวหลังหัดห้ามใจไว้ก็ดีนะ”

 

ขนมปังหน้าแดงแจ๋ หันไปประทุษร้ายไอ้นนไม่หยุด นนปล่อยให้ถูกตีไปจนกว่าปังจะหายเขินแล้วก็จับยึดแขนของแฟนสาวไว มันทำปากยื่น

 

“เค้าขอโทษ~ ก็บรรยากาศมันพาไปอ้ะ”

 

“ไอ้บ้าาาา~”

 

บอสถอนหายใจน้อยๆ เดินไปจัดการกับเอกสารในตู้ ปล่อยคู่รักปล่อยคำหวานใส่กันไป

 

“นี่เป็นห้องสภาของเด็กๆมัน ทำไรก็เกรงใจหน่อยเถอะพวกมึงน่ะ”

 

“กะว่าจะหาทำอะไรรอน้องๆอ่ะ พอดีเรากับนนโดนเรียกมาคุยเรื่องเลี้ยงส่งสภา”

 

“แล้วขนมปังก็ชวนเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกัน แฟนใครไม่รู้ร้องเพราะจังเลย~ น่ารักจนเค้าอดใจไม่ไหวเลยเห็นป้ะ”นนส่งจูบลอยใส่ขนมปัง ปังเบ้ปาก ดันหน้าของมันออกไป

 

แก้มของมันขึ้นสีแดงเรื่อน้อยๆ

 

เขินจริงๆด้วยแฮะ

 

“ทำไมวันนี้อ้อนเยอะแยะจังฮะอิบ้า”ว่าแล้วเอื้อมมือไปหยิกแก้ม ดูจะเจ็บ

 

“ก็เมื่อวานปังช่วยน้องนนติวหนังสือตั้งเยอะนิ กลัวเหนื่อยสะสม เลยต้องเอาใจปรนนิบัติเย้อเย้ออ”เอื้อมมือไปบีบแก้มกลมของอีกคนก่อนจะสั่นแก้มไปมา

 

ปกติแฟนกันเค้าทำกันแบบนี้เหรอ

 

ไม่สิ นี่มันคู่รักหัวอ่อน

 

ในหัวนึกไปถึงแฟนของตัวเอง ตอนนี้ออยคงพักเที่ยงอยู่

 

ไปหาดีกว่า

 

เดินออกมาจากห้องสภา ทิ้งคู่รักปัญญาอ่อนได้สวีทหวานเต็มที่ตามใจอยาก

 

“ไปไหนอ่ะบอส”มันถาม ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ดวงตามีประกายวิบวับไม่เหมือนทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน

 

“ไปหาออย”ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

“ฝากทักทายหน่อยนะ”

 

ส่งรอยยิ้มที่เขาแสนเกลียดชังมาให้

เหมือนทุกครั้ง

 

เหมือนทุกๆครั้งไป

 

 

.

.

.

 

 

เพิ่งเคยจูบออยเป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่คบกันมา

 

เงอะงะจัง

 

ปากนุ่มที่ถูกแนบติดกันอยู่เมื่อครู่ละออกไป เธอหน้าสีแดงก่ำจนน่ากลัว แน่อนว่าบอสก็.. ไม่ค่อยต่างกัน

 

หันหน้าหนีกัน ในความมืด

 

มือเล็กเลื่อนมากุมมือเขาช้าๆ

 

ตอนแรกก็แค่ชวนมาอ่านหนังสือที่บ้านออย นั่งอ่านกันเงียบๆ มีแค่เสียงขีดเขียน

 

‘คนเป็นแฟนกันควรจะทำอะไรกันบ้างเหรอ’

 

เออ ดันโพล่งออกไปเองนี่หว่า

 

‘ถ ถามทำไมเหรอบอส’

 

‘ก็แค่ วันนี้ไปเจอนนกับขนมปังมา เลยสงสัย’

 

‘ก็คงเป็น.. จูบล่ะมั้ง’

 

ก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

 

ก็เขิน.. ไม่เหมือนกับตอนจูบกับนนมันเท่าไหร่

 

เวลาจูบกับมัน มันจะรุกก่อน ส่วนจูบของออยเป็นจูบเบาๆ

 

“ปากแห้ง แตกหมดแล้วนะ”อดจะพูดวิจารณ์ขึ้นมาไม่ได้ มือกุมปาก หน้าร้อนฉ่า

 

เธอหัวเราะแห้ง

 

“อย่าพูดแบบนี้หลังจูบกับแฟนสิโถ่”
แล้วออยก็จูบอีกครั้ง